ภูเก็ต, ผู้ว่าฯ ภูเก็ต แขวน ?มารีนายามู? ลดความขัดแย้งประชาชนในพื้นที่ ( ข่าวภูเก็ต )

ผู้ว่าฯ ภูเก็ต ตัดสินใจไม่อนุมัติให้ก่อสร้างมารีนา ที่แหลมยามู ภายหลังรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานเกี่ยวข้อง หวั่นสร้างความแตกแยกของคนในชุมชน จนกว่าบริษัทเอกชนจะทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ให้ตรงกันทั้งสองฝ่าย พร้อมให้ทบทวนรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นใหม่ในประเด็นการเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยของคนในชุมชนให้ครอบคลุมทั้งคนในพื้นที่และคนที่ได้รับผลกระทบ

เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (12 มิ.ย.) ที่ศาลากลางจังหวัด ภูเก็ต นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัด ภูเก็ต ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างท่าเทียบเรือมารีน่าแหลมยามู ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ. ภูเก็ต ร่วมประชุม ซึ่งประกอบด้วย นายสมิทธ์ ปาลวัฒน์วิไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายปิยะ ภระตะศิลปิน ปลัดจังหวัด ภูเก็ต ขนส่งทางน้ำที่ 5 สาขา ภูเก็ต นักวิชาการจากสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด ภูเก็ต นายกองค์การบริหารส่วนตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง ฯลฯ

ทั้งนี้ เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายหลังได้มอบหมายให้ดำเนินการ ทั้งในเรื่องของการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่และการดำเนินการในด้านวิชาการ ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะอนุมัติให้โครงการดังกล่าวก่อสร้างได้หรือไม่

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัด ภูเก็ต ประชุมร่วมกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ในห้องประชุมศาลากลางจังหวัด ภูเก็ต อยู่นั้น กลุ่มผู้คัดค้านโครงการ ซึ่งประกอบด้วย กลุ่มประมงพื้นบ้าน และกลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอ่าวป่าคลอก ประมาณ 30 คน ได้รวมตัวกันมาประท้วงอยู่ด้านหน้าศาลากลางพร้อมกับแผ่นป้ายที่เขียนว่า “ขอคัดค้านการให้อนุญาตโครงการอัปยศมารีนายามู ทำลายชีวิต ทำลายทรัพยากร” ซึ่งนำโดย นายดนัย ยาดี เพื่อเรียกร้องให้จังหวัด ภูเก็ต ไม่อนุญาตให้ก่อสร้างโครงการมารีนาที่ยามู

ส่วนการประชุมนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมแสดงความดิดเห็นและเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยนางสาวนลินี ทองแถม นักวิชาการจากสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รายงานในที่ประชุมว่า จากการสำรวจบริเวณที่สร้างโครงการมารีนา ในช่วงที่น้ำลงต่ำสุดจะเป็นดินโคลนและโผล่พ้นน้ำ การสร้างท่าเรือมารีนาจะต้องมีการขุดลอกล่องน้ำ ซึ่งประเด็นนี้น่าที่จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากบริเวณที่สร้างท่าเรือมีหญ้าทะเลเป็นหย่อมๆ ที่ต่อเนื่องมาจากอ่าวบางโรงและอ่าวป่าคลอกที่มีพื้นที่หญ้าทะเล 1,800 ไร่ และสามารถเห็นได้ชัดในช่วงที่น้ำลงต่ำสุด และบริเวณหัวแหลมยามูก็มีเศษปะการังอยู่ด้วย

แนวทางในการแก้ไขปัญหา น่าที่จะลดขนาดท่าเรือให้เล็กลง เพื่อลดการทำลายหญ้าทะเล หรือไม่ก็ย้ายท่าเรือไปยังอ่าวด้านใต้ซึ่งไม่มีหญ้าทะเล รวมทั้งไม่ต้องก่อสร้างท่าเรือ เพราะโครงการบ้านหรูและโรงแรมหรูเป็นจำนวนมาก ที่ไม่จำเป็นต้องมีท่าเรือส่วนตัว

ขณะที่นายปัญญา สำเภารัตน์ นายกอบต.ป่าคลอก กล่าวว่า อบต.ป่าคลอกให้การสนับสนุนการอนุรักษ์ทรัพยากร อบต.ไปดูพื้นที่ที่จะก่อสร้างปรากฏว่า มีหญ้าทะเลเล็กน้อยเมื่อเทียบกับพื้นที่ที่ชาวบ้านดูแลอยู่ เช่น ที่แหลมหาดบางโรง หน้าอ่าวป่าคลอก หมู่ที่ 2 และปกติชาวบ้านไม่เข้าไปทำประมงในบริเวณนั้นอยู่แล้ว เพราะสัตว์ทะเลมีน้อย หากมีโครงการนี้เกิดขึ้นชาวบ้านจะได้ทำงาน เพราะตอนนี้ชาวบ้านได้ไปทำงานที่เชิงทะเลและที่ป่าตอง รวมทั้งเป็นการสร้างความเจริญให้กับชุมชน และในส่วนของประชาชนที่ไม่เห็นด้วยมองว่า ในอนาคตลูกหลานไม่สามารถที่จะเข้าไปประกอบอาชีพในบริเวณดังกล่าวได้

ด้านนายประพันธ์ ท่อทิพย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.ป่าคลอก กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยกับการก่อสร้างโครงการดังกล่าว เพราะเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ส่วนโรงแรมที่อยู่บนที่ดินที่นักลงทุนซื้อนั้นชาวบ้านไม่ได้คัดค้าน แต่ที่คัดค้านเพราะเห็นว่าทะเลเป็นจุดที่ทุกคนสามารถเข้าไปประกอบอาชีพได้ ทำไม่จะต้องยกสิ่งเหล่านั้นให้แก่นักลงทุนชาวต่างชาติด้วย ที่ผ่านมาโครงการมาการปิดทางเข้า-ออกโครงการ และที่บอกว่า จุดดังกล่าวไม่มีความสมบูรณ์ของสัตว์น้ำไม่มีการทำประมงนั้นใช่ในส่วนของเรือประมง แต่ในส่วนของการหาหอย หาปลาในบริเวณยังมีอยู่ และไม่ได้มีเฉพาะชาวบ้านในพื้นที่เท่านั้นชาวบ้านจากนอกพื้นที่ก็เข้ามาหาหอยและหาปลาด้วย

นายไพเราะ ศุทธาภรณ์ ประมงจังหวัด ภูเก็ต กล่าวว่า การพัฒนาจะต้องดูในเรื่องของผลดีที่จะเกิดขึ้นสูงสุด ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าการพัฒนาจะต้องส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา แต่ทางคณะกรรมการพิจารณาสิ่งล่วงล้ำลำน้ำจังหวัด ภูเก็ต ได้พิจารณาบนพื้นฐานของผลกระทบสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ต้องยอมรับโครงการนี้ทำให้เกิดความแตกแยกของประชาชนในพื้นที่ และหากเปิดฟังความคิดเห็นอีกก็จะมีความเห็นที่แตกต่าง น่าที่จะเชิญตัวแทนของแต่ละกลุ่มมาทำความเข้าใจเพื่อให้เข้าใจตรงกัน หลังจากนั้นถึงจะตัดสินใจว่าจะอนุมัติโครงการหรือไม่

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชจังหวัด ภูเก็ต กล่าวภายหลังรับฟังความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า จังหวัดจะไม่ตัดสินใจว่าจะอนุมัติให้ก่อสร้างท่าเทียบเรือมารีนาที่แหลมยามูในวันนี้หรือไม่ เพราะยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างของประชาชนในพื้นที่บ้านยามูและพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งฝ่ายที่สนับสนุนให้เกิดโครงการที่มองว่าจะทำให้เกิดการจ้างงาน มีการพัฒนาและเศรษฐกิจดีขึ้น กับอีกฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการที่มองว่าเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะหญ้าทะเลและปะการัง เพราะหากมีการอนุมัติหรือไม่อนุมัติโครงการก็จะทำให้เกิดความแตกแยกของประชาชนในพื้นที่ได้

ดังนั้น จังหวัด ภูเก็ต จะพิจารณาอนุมัติให้ก่อสร้างโครงการ ก็ต่อเมื่อประชาชนในพื้นที่มีความเห็นที่ตรงกันคือเห็นด้วยให้การก่อสร้างโครงการ ซึ่งเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของบริษัทที่จะต้องทำความเข้าใจกับประชาชน โดยอาจจะเชิญหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องไปร่วมด้วยก็ได้

นอกจากนี้ จังหวัดต้องการที่จะให้บริษัท เดอะยามู ทำการทบทวนผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (IEE) โดยเฉพาะประเด็นการเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยโครงการ ซึ่งยากจะให้ครอบคลุมประชาชนที่มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด ไม่เจาะจงเฉพาะประชาชนในพื้นที่บ้านแหลมยามูเท่านั้น แต่อยากจะให้ครอบคลุมประชาชนที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ใกล้เคียงด้วย

ภายหลังสิ้นสุดการประชุม นายนิรันดร์ ได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนที่คัดค้านโครงการว่า จังหวัดยังไม่อนุมัติให้ก่อสร้างโครงการเพราะยังมีความขัดแย้งของประชาชนในพื้นที่ ทำให้ชาวบ้านที่มาคัดค้านพอใจและแยกย้ายกันกลับ

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์