“เวิร์ล ซิสเท็ม พีโฟร์” เอกชนดำเนินโครงการเตาเผาขยะ “เมืองหางโจว” สนใจลงทุนเพิ่มหัวเตาเผาขยะที่ ภูเก็ต เผยใช้เวลา 10 ปีคืนทุน ผู้ว่าฯ เร่งหน่วยงานเกี่ยวข้อง ประชุมดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ ชี้รอรัฐลงทุนเป็นไปได้ยากเพราะไม่มีเงิน
วันนี้ (12 มิ.ย.) นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีเทศบาลนคร ภูเก็ต กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาขยะในพื้นที่จังหวัด ภูเก็ต ซึ่งเทศบาลนคร ภูเก็ต ได้เสนอจังหวัด เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการเพิ่มหัวเตาเผาขยะอีกจำนวน 1 หัว โดยใช้งบประมาณจำนวน 1,300 ล้านบาท ในการประชุมมอร์นิงทอร์ก ซึ่งมี นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัด ภูเก็ต เป็นประธาน และมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ว่า ในการแก้ไขปัญหาขยะในพื้นที่จังหวัด ภูเก็ต จะต้องเร่งดำเนินการ
ในช่วงนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยรัฐมนตรีลงมาติดตามรับฟังปัญหาของจังหวัดต่างๆ ในพื้นที่ 6 จังหวัดอันดามัน ในครั้งนั้นจังหวัด ภูเก็ต ได้นำเสนอปัญหาเรื่องของขยะที่มีมากเกินกว่าที่เตาเผาจะรับได้ เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการจัดซื้อหัวเตาเผาเพิ่ม และดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องของขยะให้ครบวงจรในพื้นที่จังหวัด ภูเก็ต ปรากฏว่า ขณะนี้ปัญหาดังกล่าวยังไม่ได้รับการตอบรับจากหน่วยงานภาครัฐแต่อย่างใด
นางสาวสมใจ กล่าวต่อไป ว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาขยะของจังหวัด ภูเก็ต ขณะนี้มีภาคเอกชนสนใจที่จะเข้ามาลงทุนติดตั้งหัวเตาเผาเพิ่มให้กับโรงงานเตาเผาขยะของเทศบาล รวมทั้งปรับปรุงหัวตัวเผาเดิมที่มีอยู่ให้มีศักยภาพในการทำงานมากขึ้น โดยทางภาคเอกชนจะเป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมด คือ บริษัท เวิร์ล ซิสเท็ม พีโฟร์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินการเรื่องของโรงงานเตาเผาขยะที่เมืองหางโจว ประเทศจีน ซึ่งมีโรงงานเตาเผาขยะที่ดำเนินการอยู่จำนวน 11 แห่งสามารถเผาขยะได้วันละ 450 ตัน สำหรับหัวเตาเผาขยะที่ที่ภาคเอกชนจะนำมาดำเนินการ หากภาครัฐเห็นด้วยนั้นจะเป็นเตาเผาขยะที่มีกำลังในการผลิตไฟฟ้าสูง
นางสาวสมใจ ยังได้กล่าวถึงการดำเนินการแก้ไขปัญหาขยะ ว่า ถ้าเอกชนเข้ามาลงทุนทางส่วนกลางก็ไม่ต้องสนับสนุนเงินในการจัดการของโรงงานเตาเผาขยะ ที่ขณะนี้ได้รับการอุดหนุนอยู่ปีละ 44 ล้านบาท ซึ่งจริงๆแล้วส่วนกลางก็ไม่ต้องการที่จะอุดหนุนอยู่แล้ว และต้องการให้ท้องถิ่นช่วยตัวเอง นอกจากนั้นท้องถิ่นยังอุดหนุนอีกจำนวน 20 ล้านบาท โดยทางเอกชนพร้อมที่จะลงทุนและจะใช้ระยะเวลาในการคืนทุน 10 ปี
ส่วนเรื่องของการบริหารจัดการ บริษัทจะเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งเทศบาลฯจะเป็นผู้กำหนดในการคิดค่าบริการกำจัดขยะตันละไม่เกิน 300 บาท ส่วนค่าไฟฟ้าที่ผลิตได้ก็คงจะต้องเป็นรายได้ของผู้ลงทุน
“แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นเพียงแค่แนวคิดเท่านั้น ซึ่งจะต้องมีการหารือกันมากกว่านี้ และที่ผ่านมาบริษัทดังกล่าวก็ได้เชิญเทศบาลไปดูงานโรงงานเตาเผาขยะที่หางโจวมาแล้ว และคิดว่าน่าจะมีการหารือเรื่องนี้กันอีกครั้ง” นางสาวสมใจ กล่าว
ด้าน นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัด ภูเก็ต กล่าวว่า การที่มีภาคเอกชนสนใจจะเข้ามาลงทุนเรื่องของการจัดการขยะนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะถ้ารอรัฐบาลลงทุนคงเป็นไปได้ยาก เพราะรัฐบาลไม่มีเงินท้องถิ่นจะต้องช่วยตัวเอง ซึ่งทราบว่านอกจากจะมีบริษัท เวิร์ล ซิสเท็ม พีโฟร์ สนใจแล้วยังมี บริษัทจัดการหลักทรัพย์กองทุนไทย ING และประเทศไทย จำกัด ด้วยที่สนใจ ซึ่งอยากให้เทศบาลฯนัดให้มีการประชุมพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะจะมีกฎหมายหลายอย่างเข้ามาเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ.รวมทุน หรือเรื่องของข้อยกเว้นต่างๆ ซึ่งจะต้องมีการศึกษาความเป็นไปได้
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ขอให้มีการดำเนินการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งภาคเอกชนที่สนใจโดยเร็วที่สุด
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์