สนช.พร้อมผลักดันให้มีเที่ยวบินบินตรงญี่ปุ่น- ภูเก็ต รับปากกลับไปหารือผู้บริหารการบินไทย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ขณะที่ผู้บริหารท่าอากาศยาน ภูเก็ต เผยประสบปัญหาสิ่งอำนวยความสะดวกไม่เพียงพอ แต่วางแผนแก้ไขแล้ว คุยผู้โดยสารใช้บริการ 5 เดือนแรกปี 50 กว่า 2.9 ล้านคน
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (11 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมอาคารท่าอากาศยาน ภูเก็ต อ.ถลาง จ. ภูเก็ต คณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว สภานิติบัญญัติแห่งชาติ นำโดยพลเรือเอกประเสริฐ บุญทรง ประธานคณะกรรมาธิการ พร้อมคณะ รับฟังบรรยายสรุป และเยี่ยมการดำเนินงานของท่าอากาศยาน ภูเก็ต
ทั้งนี้ มีนาวาอากาศโทวิชา เนินลพ รองผู้อำนวยการ ท่าอากาศยาน ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ พร้อมรายงานสรุปการดำเนินการของท่าอากาศยาน ภูเก็ต ในโอกาสที่เดินทางมาศึกษาดูงานด้านการส่งเสริม และพัฒนาอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว ที่ จ.สุราษฎร์ธานี กระบี่ และ ภูเก็ต ในระหว่างวันที่ 8-11 มิถุนายน 2550
นาวาอากาศโทวิชา กล่าวว่า ปัจจุบันมีสายการบินที่ใช้บริการท่าอากาศยาน ภูเก็ต ซึ่งเป็นเที่ยวบินในประเทศจำนวน 5 สายการบิน ได้แก่ การบินไทย บางกอกแอร์เวย์ส โอเรียนท์ไทย ไทยแอร์เอเชีย และนกแอร์ ส่วนสายการบินระหว่างประเทศมีจำนวน 24 สาย การบิน เช่น ASIANA AIRLINES, ASLASJET, AUSTRAIN AIRLINES, SILK AIR เป็นต้น โดยในในช่วงตั้งแต่เดือนมีนาคม-ตุลาคม มีเที่ยวบินที่แจ้งการบินมาแล้วสัปดาห์ละ 28 เที่ยวบิน โดยเพิ่มขึ้นจากปี 2549 ในช่วงเดียวกัน ซึ่งมีเพียง 16 เที่ยวบินต่อสัปดาห์
นาวาอากาศโทวิชา กล่าวถึงการจัดทำโครงการส่งเสริมการบินนอกฤดูการท่องเที่ยวของ ภูมิภาคอันดามัน ว่า โครงการดังกล่าวจัดทำขึ้นเพื่อส่งเสริมสายการบินให้เพิ่มเส้นทางบินระหว่างประเทศ และรักษาจำนวนเที่ยวบินในช่วงนอกฤดูการท่องเที่ยว โดยการลดค่าแลนดิ้งฟรีทั้งในส่วนของสายบินใหม่และที่มีอยู่เดิม ซึ่งขณะนี้รอการอนุมัติจากทางคณะกรรมการของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
ส่วนของจำนวนผู้โดยสารของท่าอากาศยาน ภูเก็ต คิดตามปีงบประมาณ โดยในปี 2549 มีผู้โดยสารจำนวน 4.4 ล้านคน เพิ่มจากปี 2548 ประมาณ 28% ซึ่งในช่วง 5 เดือนแรก ของปี 2550 นับจากเดือนตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ มีผู้โดยสาร 2.9 ล้านคน เพิ่มจากช่วยเดียวกันของปี 2549 ประมาณ 24% ทั้งนี้ คาดว่า ตลอดทั้งปีจะมีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นประมาณ 20%
ด้านปริมาณเที่ยวบินรวม ในปี 2549 มีจำนวน 29,012 เที่ยว เพิ่มจากปี 2548 ประมาณ 8% ส่วนในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2550 มี เที่ยวบินจำนวน 19,438 เที่ยวบิน เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปี 2549 ประมาณ 32%
ส่วนปัญหาและข้อขัดข้อง นาวาอากาศโทวิชา กล่าวว่า จากประมาณการสายการบินเช่าเหมาลำที่จะเข้ามาในปี 2551 ในช่วงฤดูการท่องเที่ยว คาดว่า จะเพิ่มจากปี 2550 ประมาณ 2 เท่า หรือประมาณ 20 บริษัทการบิน ส่วนของสายการบินประจำ ซึ่งปี 2550 มีจำนวน 100 เที่ยวบินและในปี 2551 คาดว่า จะเพิ่มประมาณ 20% และคาดว่า เมื่อสิ้นปี 2550 จะมีผู้โดยสารเดินทางเข้ามาประมาณ 4.8 ล้านคน โดยในปี 2551 จะเพิ่มประมาณ 10% หรือประมาณ 5.2 ล้านคน
“ปัญหาของท่าอากาศยาน ภูเก็ต ที่ประสบอยู่ คือ สิ่งอำนวยความสะดวกมีไม่เพียงพอ
และเกิดการแออัดในบางช่วงเวลาบริเวณชานชาลาชั้นสอง บริเวณเช็กอินเคาน์เตอร์ และ เคาน์เตอร์ด่านตรวจคนเข้าเมืองขาเข้า/ออก ลานจอดรถไม่เพียงพอ และการจราจรบริเวณ หน้าท่าอากาศยาน ภูเก็ต แออัด ซึ่งปัญหาดังกล่าวนั้นได้มีการจัดทำแผนงานในการ แก้ไขไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะการขยายพื้นที่ เพื่อรองรับปริมาณผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทั้งหมดจะแล้วเสร็จประมาณเดือนพฤศจิกายนนี้
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของการบริหารจัดการ ซึ่งจะต้องอิงระเบียบของกระทรวงการคลัง ซึ่งทำให้การเบิกจ่ายล่าช้า และไม่ทันกับการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น” นาวาอากาศโทวิชา กล่าว
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการรับฟังบรรยายสรุปแล้วทางคณะกรรมาธิการ ก็ได้มีการซัก
ถามโดยให้ความสนใจกับเรื่องของการบริหารงาน ซึ่งล่าช้าไม่ทันกับความต้องการ และเรื่องการเตรียมความพร้อมด้านการดูแลรักษาความปลอดภัย
นาวาอากาศโทวิชา กล่าวชี้แจงว่า ในเรื่องของการดูแลการรักษาความปลอดภัย ได้ติดตั้งกล้องซีซีทีวีรอบตัวอาคารจำนวน 100 กว่าจุด นอกจากนี้ ยังจัดให้มีเครื่องเอกซเรย์ ก่อนที่จะเข้าไปในตัวอาคาร จัดให้มีกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยาน โดยมีการประสานความร่วมมือกับทางตำรวจภูธรในพื้นที่ และได้รับกำลังเสริมจากทางตำรวจตระเวนชายแดน รวมทั้งการประสานความร่วมมือกับชุมชน บริเวณรอบท่าอากาศยานในการร่วมมือกันดูแลแจ้งเบาะแสต่างๆ
ด้านพลเรือเอกประเสริฐ กล่าวว่า การติดตามการดำเนินงานของท่าอากาศยานในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งมาจากร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหา เรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น หลุมจอดไม่เพียงพอในช่วงฤดูการท่องเที่ยว พื้นที่รองรับไม่เพียงพอ เครื่องปรับอากาศไม่เย็น เป็นต้น ซึ่งได้รับการชี้แจงว่า อยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไขและปรับปรุง ซึ่งจะแล้วเสร็จก่อนฤดูกาลท่องเที่ยวที่จะถึงนี้
อย่างไรก็ตาม เรื่องที่คณะกรรมาธิการจะผลักดันต่อ คือ ให้มีเที่ยวบินตรงจากญี่ปุ่นมายัง ภูเก็ต เพราะถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่จะนำนักท่องเที่ยวเข้ามา โดยจะกลับไปเจรจากับทางบริษัทการบินไทย และผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงในเรื่องของปัญหาการบริหารที่ยังต้องใช้ระเบียบของกระทรวงการคลัง แม้ว่าจะเป็นบริษัทมหาชนแล้วก็ตาม ซึ่งทำให้เกิดความล่าไม่ทันกับการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์