จังหวัด ภูเก็ต จัดปล่อยชะนีคืนสู่ป่าเทิดฟ้าองค์ราชันอีก1ครอบครัว หลังประสบความสำเร็จปล่อยมาแล้ว 4 กลุ่มเพิ่มประชากรชะนีให้ป่าเขาพระแทวได้เป็นแห่งแรกในโลก
วันนี้ (7 มิ.ย.) นายสมิทธิ์ ปาลวัฒน์วิไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัด ภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการ “ปล่อยชะนีสู่ป่าเทิดฟ้าองค์ราชัน” ซึ่งมูลนิธิช่วยชีวิตสัตว์ป่าแห่งประเทศไทยจัดขึ้น ณ หน่วยพิทักษ์ป่าบางแป เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาพระแทว อ.ถลาง จ. ภูเก็ต โดยทำการปล่อยชะนีคืนสู่ป่าจำนวน 1 กลุ่ม คือ ครอบครัวพายุ ซึ่งเป็นครอบครัวชะนีที่ทางมูลนิธิฯย้ายจากศูนย์ฝึกและพักฟื้นชะนีจากหน่วยพิทักษ์ป่าน้ำตกบางแปเข้าไปอยู่ในกรงฝึกในป่าเขาพระแทว สำหรับครอบครัวพายุมีสมาชิก 4 ตัว คือชะนีชื่อขาวตัวพ่อ ชะนีนวลตัวแม่ ชะนีพายุและน้ำทิพย์ตัวลูก
นายปรีชา สอนเสริม กรรมการบริหารมูลนิธิช่วยสัตว์ป่าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการจัดโครงการปล่อยชะนีคืนสู่ป่าว่า เพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูฝึกชะนีให้รู้จักดำรงชีวิตในป่าและเป็นการเพิ่มชะนีในป่าเขาพระแทวให้คื่นสู่ถิ่นอาศัยเดิมซึ่งได้สูญพันธ์ไปแล้ว สำหรับการปล่อยชะนีคืนสู่ป่าในครั้งนี้เป็นการปล่อยครั้งที่ 5 โดยที่ผ่านมาได้มีการปล่อยชะนีคืนสู่ป่าไปแล้วจำนวน 4 ครั้งโดยเริ่มปล่อยชะนีคืนสู่ป่าตั้งแต่ปี 2545 ขณะนี้ชะนีที่ปล่อยไปสามารถอาศัยและหากินได้ด้วยตัวเองและมีการเพิ่มจำนวนประชากรแล้วด้วย ถือเป็นการปล่อยชะนีคืนสู่ป่าสำเร็จเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในโลก
นายปรีชา กล่าวต่อว่า ขณะนี้ในโครงการมีชะนีที่อยู่ในศูนย์พักฟืนจำนวนกว่า 60ตัว และชะนี้ทั้งหมดเป็นชะนีที่เคยถูกทารุณกรรมและถูกกักขังมาก่อน รวมถึงชะนีที่เคยเป็นสัตว์เลี้ยงตามบาร์ ร้านอาหาร หรือตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ยังมีคนที่ออกล่าชะนีอยู่โดยนำลูกชะนีมาขายในราคาตัวละ 6,000-10,000 บาท ซึ่งเป็นการกระทำผิดกฎหมาย
โดยเรื่องนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและคนทั่วไปจะต้องช่วยกันดูแลและลดปัญหาการล่าชะนีเพราะขณะนี้ชะนีในป่าเขาพระแทวมีน้อยและทางมูลนิธิเพิ่มปล่อยไปได้เพียง 5 ครอบครัวเท่านั้น จึงจำเป็นที่จะต้องช่วยกันรณรงค์ต่อต้านการล่าและการค้าสัตว์ป่า ตลอดจนการทารุณกรรมสัตว์ เพื่อช่วยกันอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าเขาพระแทวควบคู่กันไปด้วย
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์