มูลนิธิพัฒนรักษ์ หนุนโรงเรียนในภูเก็ตดำเนินกิจกรรมนักสืบสายน้ำคลองบางใหญ่ ตามโครงการคืนชีวิตให้คลองบางใหญ่
นายสุดจิต นิมิตรกุล ประธานมูลนิธิพัฒนรักษ์ กล่าวภายหลังตรวจติดตามผลการดำเนินกิจกรรมนักสืบสายน้ำคลองบางใหญ่ จังหวัดภูเก็ต ตามโครงการคืนชีวิตให้คลองบางใหญา ว่า นักสืบสายน้ำเป็นส่วนหนึ่งของโครงการคืนชีวิตให้คลองบางใหญ่ เป็นการดำเนินงานโรงเรียนที่อยู่ริมคลองตั้งแต้ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ
ทั้งนี้ มูลนิธิพัฒนรักษ์ได้ให้การสนับสนุนงบประมาณและประสานงาน เพื่อให้กิจกรรมการดำเนินการเป็นอย่างต่อเนื่อง ดำเนินการในในลักษณะของเครือข่ายมีการทำกิจกรรมร่วมกัน เนื่องจากคลองบางใหญ่เป็นสายน้ำหลักของจังหวัดภูเก็ต ไหลผ่านอำเภอกะทู้และอำเภอเมืองภูเก็ต ซึ่งมีความสำคัญต่อจังหวัดภูเก็ตมาก เพราะเป็นเส้นทางน้ำสายเดียว ที่สามารถระบายน้ำฝนลงทะเลได้อย่างรวดเร็ว และยังช่วยป้องกันน้ำท่วมตัวเมืองได้เป็นอย่างดี แม้บางครั้งจะมีการท่วมขังบ้าง แต่มีสาเหตุจากการระบายไหลลงทะเลไม่ทันหรือมีน้ำทะเลหนุน
“จากความสำคัญดังกล่าว จึงเกิดโครงการคืนชีวิตให้คลองบางใหญ่ขึ้น เพื่อเป็นการรักษาสภาพน้ำ ซึ่งสกปรกเพราะการทิ้งขยะและของเสียลงสู่ลำคลอง การเฝ้าระวังคุณภาพน้ำไม่ให้เป็นอันตรายต่อผู้ที่จับปลาและหาอาหารในคลองยังชีพ กลิ่นเหม็นที่เกิดจากการเน่าเสียของน้ำรบ กวนประชาชนสองฝั่งคลองและการทำลายวัชพืชที่ปกคลุมกีดขวางการไหลของน้ำ ตลอดจนทัศนียภาพที่ไม่สวยงามของสองฝั่งคลอง โดยเฉพาะบริเวณที่ไหลผ่านเขตชุมชน”
นายสุดจิต กล่าวด้วยว่า การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นจะต้องได้รับความร่วมมือจากบุคคลหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับคลองบางใหญ่ โดยเฉพาะการสร้างจิตสำนึกรักษ์คลองบางใหญ่ จึงทำให้เกิดการรวมตัวของโรงเรียนที่อยู่ริมคลองตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ อันประกอบด้วยโรงเรียนบ้านไม้เรียบ โรงเรียนบ้านกะทู้ โรงเรียนบ้านเก็ตโฮ่ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่อยู่ต้นน้ำ โรงเรียนสตรีภูเก็ต เป็นโรงเรียนที่อยู่กลางน้ำ และโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งอยู่ปลายน้ำได้ร่วมกันทำโครงการเพื่อการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง
ประกอบด้วยการ สร้างองค์ความรู้ โดยการทัศนศึกษาต้นน้ำคลองบางใหญ่และวิธีการคืนชีวิตให้คลองบางใหญ่ การอบรมเรื่องการทำน้ำหมักชีวภาพ จัดกิจ กรรมอบรมเรื่องนักสืบสายน้ำและการทดสอยคุณภาพน้ำทางเคมี การจัดกิจกรรม บิ๊ก ครีนนิ่ง เดย์ ( Big Cleaning Day) การปรับทัศนียภาพสองฝั่งคลอง โดยเฉพาะโรงเรียนที่มีลำคลองไหลผ่าน นอกจากนี้จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์นำเสนอกิจกรรมต่างๆ ในโครงการเผยแพร่โรงเรียนในโครงการชุมชน องค์กรและหน่วยงานที่มีส่วนรับผิดชอบในท้องถิ่น
ด้านนางสาวนุสรา สุขพัฒน์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสตรีภูเก็ต ผู้ประสานงานกิจกรรม กล่าวถึงการดำเนินกิจกรรมในโครง การคืนชีวิตให้คลองบางใหญ่ ว่าได้มีการร่วมมือกับโรงเรียนที่ตั้งอยู่ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยแบ่งความรับผิดชอบออกเป็น 3 ช่วง คือ ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ โดยจัดให้มีโครงการนักสืบสายน้ำขึ้น เพื่อตรวจสอบคุณภาพน้ำโดยการสำรวจสัตว์น้ำจืดที่เป็นตัวบ่งชี้คุณภาพน้ำ โดยใช้คู่มือนักสืบสายน้ำประกอบการศึกษาหาข้อมูล กับนักสืบชายหาด เพื่อตรวจสอบจำนวนสิ่งมีชีวิตบริเวณหาดเลนปากคลองบางใหญ่ โดยสำรวจสิ่งมีชีวิตบริเวณป่าชายเลนและหาดเลน บริเวณปากคลองโดยใช้คู่มือนักสืบชายหาด
จากการดำเนินการสรุปได้ว่าบริเวณต้นน้ำคุณภาพยังดีอยู่ สามารถนำไปผลิตน้ำประปาได้ ส่วนกลางลำคลองจะมีปัญหาน้ำเสีย ที่เกิดจากการปล่อยน้ำเสียและทิ้งขยะของบ้านเรือน เช่นเดียวกับปลายน้ำ ซึ่งเป็นผลมาจากกลางน้ำ เพราะเป็นศูนย์รวมของน้ำที่ไหลมาจากแหล่งต่างๆ
ด้านนางสาวฤดี ภูมิภูถาวร อาจารย์โรงเรียนสตรีภูเก็ต หัวหน้าโครงการ กล่าวว่า จากการดำเนินงานที่ผ่านมาพบว่า การดำเนินที่ไม่สามารถทำได้ คือการจัดระเบียบคลองบางใหญ่ การแก้ปัญหาในอนาคตนั้นจะต้องอาศัยความร่วมมือจากชุมชนในการพิทักษ์และรักษาสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการประสานความร่วมมือกับท้องถิ่นเจ้าของพื้นที่ ในการประชาสัมพันธ์ปลุกจิตสำนึกและรณรงค์ไม่ให้มีการทิ้งขยะหรือน้ำเสียจากบ้าน เรือนลงสู่ลำคลอง ตลอดจนการทำลายวัชพืชที่ขึ้นอยู่ปลายในลำคลอง เนื่องจากเป็นปัญหาหนึ่งที่จะทำให้เกิดการพังทลายของเขื่อน และกีดขวางการไหลของน้ำ
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์