บริษัทร่วมทุนไทย-มาเลเซีย “เอฟฟรวน-ไทย” สนใจลงทุนสร้างกระเช้าไฟฟ้า เล็งพื้นที่ป่าตอง เพื่อเพิ่มกิจกรรมท่องเที่ยว คุยใช้งบมากกว่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ ผู้ว่าฯ เผย พร้อมรับการลงทุนทุกเรื่อง แต่ต้องไม่กระทบสิ่งแวดล้อม และความรู้สึกของคนในพื้นที่
นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการเข้าพบของ นาย วีเจ กรรมการผู้จัดการบริษัท เอฟฟรวน-ไทย จำกัด และคณะ ซึ่งเป็นบริษัท ร่วมทุนระหว่างไทยและมาเลเซีย เพื่อนำเสนอและขอรับการสนับสนุนโครงการสร้างกระเช้าไฟฟ้าในจังหวัดภูเก็ต เพื่อร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยว ว่า เรื่องของการสร้างกระเช้าไฟฟ้าในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตตามที่ต่างๆ มีนักลงทุนชาวต่างชาติสนใจที่จะเข้ามาลงทุนหลายราย และรายล่าสุดนี้ คือ นักลงทุนจากมาเลเซีย ซึ่งเป็นบริษัทที่ร่วมลงทุนระหว่างไทยกับมาเลเซีย โดยการลงทุนยังไม่ทราบว่าจะเป็นการลงทุนในจุดไหน
ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต พร้อมที่จะสนับสนุนให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในพื้นที่ แต่การลงทุนโครงการต่างๆ จะต้องไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และความรู้สึกของประชาชน โดยเฉพาะเรื่องของกระเช้าไฟฟ้าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะมีหลายจังหวัดที่จะดำเนินการโครงการในลักษณะนี้ แต่ทำไม่ได้ เพราะมีเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อม สำหรับในส่วนของนักลงทุนรายนี้ คงจะต้องดูข้อเสนอเอกชน ว่า มีอย่างไรบ้าง รวมไปถึงสถานที่ที่จะใช้สำหรับการประกอบการ
ขณะที่ นายวีเจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอฟฟรวน-ไทย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่จะเข้ามาลงทุนเรื่องของการสร้างกระเช้าไฟฟ้าในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การลงทุนสร้างกระเช้าไฟฟ้าที่ภูเก็ต มองไว้ที่บริเวณป่าตอง ซึ่งขณะนี้กำลังหาสถานที่ที่เหมาะสม และอยู่ในระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ รวมทั้งเรื่องของผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้วย
สำหรับกระเช้าไฟฟ้าที่จะสร้าง จะเป็นลักษณะของกระเช้าขึ้น-ลง สู่ยอดเขา เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้มองเห็นทิวทัศน์ของเมืองและทะเล นอกจากนั้น ด้านบนก็จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆไว้บริการ เช่น ร้านอาหาร ที่พักอาจจะเป็นโรงแรม หรือรีสอร์ต ซึ่งการสร้างกระเช้าไฟฟ้าที่จังหวัดภูเก็ต จะไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและไม่บดบังทิวทัศน์แน่นอนเพราะลักษณะของกระเช้าและรูปแบบจะแตกต่างกับที่อื่นๆ โดยจะคล้ายกับที่ประเทศนิวซีแลนด์
“เบื้องต้นคาดว่า จะต้องใช้งบประมาณในการลงทุนไม่ต่ำกว่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนสถานที่ในการดำเนินการขณะนี้กำลังหาพื้นที่อยู่ โดยกลุ่มผู้ใช้บริการ ก็จะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยวคนไทย”
นายวีเจ ยังได้กล่าวต่อไปถึงการตัดสินใจที่เข้ามาลงทุนโครงการกระเช้าไฟฟ้าที่ภูเก็ต ว่า สำหรับจังหวัดภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คนทั่วโลกรู้จัก และหลังจากเกิดสึนามิ ก็อยากที่จะเข้ามาลงทุนและสร้างกิจกรรมทางด้านการท่องเที่ยวให้แก่ภูเก็ต เพี่อให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวและนักลงทุนมากขึ้น เชื่อว่า การตัดสินใจเข้ามาลงทุนจะช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวและนักลงทุนอื่นๆ ตัดสินใจตามเข้ามาลงทุนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเพิ่มมากยิ่งขึ้น
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์