แหล่งรวม ธุรกิจ บริษัท ห้างร้าน และ ข้อมูล การท่องเที่ยว ในแถบ อันดามัน
กรมขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวีเตรียมชงของบประมาณในปี 2551 อีก 360 ล้านบาท ก่อสร้างมารีน่ารับเรือยอชต์ต่างชาติที่ภูเก็ตอีก 210 ลำ หลังผลการศึกษาแล้วเสร็จ ขณะที่เฟสแรก 44 ลำ จะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในกันยายนปีนี้
กรมขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี ร่วมกับบริษัท โกลเด้น แพลน จำกัด บริษัท ซี.สเปคตรัม จำกัด และบริษัท เอส ที เอส เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ จำกัด นำเสนอผลการศึกษาและรับฟังความคิดเห็นการออกแบบโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือสำราญกีฬาอ่าวฉลอง จังหวัดภูเก็ต ต่อหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชนและประชาชนในพื้นที่ภูเก็ต ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต โดยที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมแสดงความคิดเห็น ภายหลังบริษัทที่ปรึกษาได้ทำการศึกษาแล้วเสร็จก่อนที่จะส่งมอบให้แก่ทางกรมขนส่งทางน้ำและพาณิชย์นาวี เพื่อของบประมาณมาดำเนินการต่อไป
สำหรับโครงการศึกษาออกแบบโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือสำราญอ่าวฉลอง จ.ภูเก็ตเป็นหนึ่งในโครงการศึกษาออกแบบท่าเรือสำราญกีฬาในฝั่งทะเลอ่าวไทยและอันดามันของกรมขนส่งทางน้ำและพาณิชย์นาวี ซึ่งในพื้นที่ภูเก็ตนั้นจากผลการศึกษาพบว่าบริเวณท่าเทียบเรืออ่าวฉลองมีความเหมาะสม ซึ่งขณะนี้ทางกรมขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวีได้ดำเนินการก่อสร้างที่ท่าเทียบเรือสำราญหรือเรือยอชต์ในเฟสแรกไปแล้ว ที่สามารถจอดเรือยอชต์ได้ 44 ลำ ด้วยงบประมาณ 70 ล้านบาท จะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2550 จึงได้ศึกษาออกแบบในเฟสที่ 2 ต่อเพื่อที่จะรองรับเรือยอชต์ได้มากขึ้น เนื่องจากในแต่ละปีจะมีเรือยอชต์ของชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาภูเก็ตเป็นจำนวนมาก
จากการศึกษาออกแบบโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือสำราญกีฬาอ่าวฉลองในเฟส 2 นี้ ภายในโครงการจะประกอบด้วยที่จอดเรือยอชต์จำนวน 210 ลำ เขื่อนกันคลื่น 2 ตัว รวมความยาวประมาณ 1,300 เมตร การขุดลอกร่องน้ำและแอ่งจอดเรือ อาคารอเนกประสงค์เพื่อให้เป็นจุดให้บริการตรวจคนเข้าเมือง ศุลกากร ด่านกักกันโรคพืช -โรคสัตว์ ที่ทำการสำนักงานตรวจการขนส่งทางน้ำที่ 5 สาขาภูเก็ต และที่ฝึกอบรมคนเรือที่เกี่ยวกับการนำเรือยอชต์และความปลอดภัยในการเดินเรือ อาคารช่างเพื่อให้บริการซ่อมบำรุงทุ่นจอดเรือและอุปกรณ์ประกอบต่างๆ ในโครงดาร เครื่องหมายช่วยการเดินเรือ ถึงเก็บน้ำดีและโรงสูบน้ำ และบ่อบำบัดน้ำเสีย
นอกจากนี้การศึกษายังได้ศึกษาครอบคลุมถึงด้านวิศวกรรมชายฝั่ง อุทกศาสตร์และสมุทรศาสตร์ การออกแบบเขื่อนกันคลื่น การศึกษาผลกระทบต่อสภาพอุทกพลศาสตร์ การศึกษาผลกระทบจากการขุดลอก การศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และการบริหารจัดการท่าเรือภายหลังก่อสร้างแล้วเสร็จที่มอบให้ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.) เป็นผู้บริหารเนื่องจากอบจ.ภูเก็ตเป็นเจ้าของพื้นที่ท่าเรืออ่าวฉลอง
อย่างไรก็ตามผลการศึกษายังได้ศึกษาครอบคลุมถึงผลตอบแทนของโครงการ โดยผลตอบแทนทางการเงินที่พิจารณาจากค่าธรรมเนียมท่าเรือที่ผู้ประกอบการเก็บในปัจจุบันกับค่าใช้จ่ายที่ประเมินพบว่าการพัฒนาท่าเทียบเรือสำราญกีฬาอ่าวฉลอง มีผลตอบแทนทางการเงินในรูปอัตราส่วนผลตอบแทนภายในเท่ากับ 6.55% สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลแต่ต่ำกว่าอัตราคิดลด 10% จึงทำให้มูลค่าปัจจุบันสุทธิเป็นลบเท่ากับ -78.02 ล้านบาท โดยมีค่าอัตราผลตอบแทนต่อค่าใช้จ่ายประมาณ 0.82 และสามารถคืนทุนได้ในปี 2562 หรือ 11 ปี หลังเปิดดำเนินการ จึงไม่มีความคุ้มค่าทางธุรกิจ การลงทุนในแง่ของเอกชนไม่สามารถที่จะเกิดขึ้นได้
ส่วนผลตอบแทนทางเศรษฐศาสตร์นั้น ที่มีการประเมินผลตอบแทนในรูปรายได้จากภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีเงินได้จากการบริการที่ให้แก่นักท่องเที่ยว พบว่าการพัฒนาท่าเทียบเรือสำราญกีฬาอ่าวฉลองมีผลตอบแทนทางเศรษฐศาสตร์ในรูปอัตราส่วนผลตอบแทนเท่ากับ 24.56% มีมูลค่าปัจจุบันสุทธิเท่ากับ 370.62 ล้านบาท โดยมีอัตราส่วนผลตอบแทนต่อค่าใช้จ่ายทางเศรษฐศาสตร์ประมาณ 1.92 และสามารถคืนทุนได้ในปี 2555 หรือ 5 ปี หลังจากเปิดดำเนินงาน จึงเป็นโครงการที่รัฐควรดำเนินการลงทุนก่อสร้าง
ด้านนางวิลาวรรณ ศิริงามเพ็ญ ผู้อำนวยการกองวิชาการและแผนงาน กรมขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี กล่าวว่า ภายหลังผลการศึกษาแล้วเสร็จทางกรมขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวีจะของบประมาณก่อสร้างโครงการท่าเทียบเรืออ่าวฉลองอีก 360 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2551 ซึ่งเมื่อปีงบประมาณ 2550 ทางกรมขนส่งฯได้ของบประมาณไปแล้วแต่ไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณเนื่องจากการศึกษาออกแบบโครงการยังไม่แล้วเสร็จ แต่เมื่อผลการศึกษาแล้วเสร็จจะได้การจัดสรรงบประมาณอย่างแน่นอน
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์
English
