ภูเก็ต, ทน.ภูเก็ตฝึก อปพร.พร้อมรับภัยต่างๆ ( ข่าวภูเก็ต )

เทศบาลนครภูเก็ต จัดฝึกอบรมทบทวนและทัศนศึกษาดูงาน ให้แก่สมาชิกอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน เพื่อให้มีความพร้อมในการรับมือกับภัยต่างๆ ที่เกิดขึ้น

นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์สาธารณภัยและอุบัติภัยที่เกิดขึ้นมีแนวโน้ม ว่า จะมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น และก่อให้เกิดความสูญเสียแก่ชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนและทางราชการ ตลอดจนเกิดความสูญเสียต่อการพัฒนาประเทศชาติมากขึ้นตามลำดับ

เทศบาลนครภูเก็ต ได้ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องดังกล่าว และเล็งเห็นว่า มีความจำเป็นที่จะต้องเตรียมการเพื่อรับมือกับสาธารณภัยที่อาจเกิดขึ้น ทั้งด้านวัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้และกำลังคน ให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานและพร้อมทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ยังมีความจำเป็นที่จะต้องอาศัยกำลังจากภาคประชาชนเข้ามาสนับสนุนช่วยเหลืองานด้านการป้องกันภัยร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งก็คืออาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน หรือ อปพร.และเพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของ อปพร.เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล พร้อมที่จะทำงานในการป้องกันและลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินจากสาธารณภัยที่อาจเกิดขึ้น และมีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา

เทศบาลจึงได้กำหนดจัดฝึกอบรมทบทวนแก่ สมาชิก อปพร.จำนวน 110 คน โดยคัดเลือก สมาชิกที่ผ่านการฝึกอบรมแล้วทั้งหมด 7 รุ่น ในระหว่างวันที่ 7-9 พฤษภาคม 2550 ณ อาคารอเนกประสงค์ งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยถนนกระรน โดยจะให้ความรู้เกี่ยวกับ ระเบียบว่าด้วยหน่วย อปพร.พ.ศ.2547 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2549 ภารกิจและอุดมการณ์ อปพร.

การจัดการภัยพิบัติจากการก่อวินาศกรรมและการรักษาความสงบเรียบร้อย, การฝึกปฏิบัติการกู้ชีพและกู้ภัย, การฝึกปฏิบัติการป้องกัน และระงับอัคคีภัย, การจัดการภัยพิบัติตามความเสี่ยงของพื้นที่ (สึนามิ, โคลนถล่ม, วาตภัย, อุทกภัย)

นอกจากนี้ ในระหว่างวันที่ 9-14 พฤษภาคม 2550 จะจัดให้มีการเดินทางไปทัศนศึกษาดูงาน ศูนย์ อปพร.เทศบาลเมืองหัวหิน และค่ายธนะรัชต์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)กรุงเทพมหานคร ศูนย์ อปพร.เขตดินแดง (ศูนย์ อปพร.ดีเด่น ปี 2550) และ ศูนย์ อปพร.เทศบาลเมืองกาญจนบุรี

ทั้งนี้ เทศบาลนครภูเก็ตมุ่งหวังว่าการฝึกอบรม อปพร.ครั้งนี้จะก่อให้เกิดกลุ่มพลังมวลชนที่สามารถสร้างสรรค์ประโยชน์แก่ท้องถิ่น ให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม ทำให้การดำเนินงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ของเทศบาลมีศักยภาพ ส่งผลให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีต่อไป

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์