คณะกรรมการพิจารณาสิ่งล่วงล้ำลำน้ำภูเก็ต เห็นชอบให้หลักการให้ก่อสร้างมารีน่านักลงทุนต่างชาติที่แหลมยามู กว่า 60 ล้านบาท ท่ามกลางเสียงคัดค้านของกลุ่มประมงพื้นบ้านและนักวิชาการ ที่หวั่นทำลายแหล่งหญ้าทะเลที่สมบูรณ์ที่สุดเกาะภูเก็ต
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (20 เม.ย.) นายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานประชุมคณะกรรมการพิจารณาสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ จังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 4/2550 ณ ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดภูเก็ต โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม เพื่อพิจารณาการขออนุญาตก่อสร้างท่าเทียบเรือมารีน่า ขนาดไม่เกิน 30 ตันกรอส ของ บริษัท เดอะยามู จำกัด โดย นายเอียน ไมเคิล ซาร์ลส์ เฮนรี่ ที่บริเวณบ้านแหลมยามู ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งโครงการดังกล่าว ได้ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ตเรียบร้อยแล้ว
สำหรับโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือมารีน่า ที่แหลมยามูนี้ ตัวแทนบริษัทที่ปรึกษาได้รายงานต่อที่ประชุม ว่า โครงการดังกล่าวจะพัฒนาทั้งพื้นที่ในน้ำและพื้นที่บนบก โดยพื้นที่บนบกจะมีการก่อสร้างโรงแรมรีสอร์ต บนเนื้อที่ 100 ไร่ ซึ่งประกอบด้วย วิลล่า 32 หลัง และโรงแรมอีก 63 หลัง ส่วนพื้นที่ในน้ำนั้นจะพัฒนาเป็นท่าเรือมารีน่า ที่สามารถรองรับเรือขนาดไม่เกิน 30 ตันกรอสได้ 39 ลำ และการก่อสร้างดังกล่าวจะต้องมีการขุดรอกล่องน้ำในเนื้อที่ทั้งหมด 18,000 ตร.ม.ลึก 1.5 เมตร ใช้เงินลงทุนเฉพาะท่าเทียบเรือประมาณ 60 ล้านบาท
รวมทั้งในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงกับที่จะมีการก่อสร้างท่าเทียบเรือมีหญ้าทะเลอยู่ ซึ่งบริษัทได้ส่งรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น ให้กับคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ตพิจารณาแล้ว และเพื่อไม่ได้มีผลกระทบต่อหญ้าทะเลในบริเวณดังกล่าว บริษัทจึงได้ลดขนาดโครงการก่อสร้างให้เล็กลง
บริษัทที่ปรึกษายังรายงานต่อว่า บริษัทได้สำรวจความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ โดยได้ทำแบบสำรวจทั้งสิ้น 200 ชุด ซึ่งมีประชาชนเห็นด้วย 75% ไม่แสดงความคิดเห็น 8% และที่เหลือไม่เห็นด้วย รวมทั้งได้มีการสอบถามกับกลุ่มผู้ประกอบอาชีพเก็บหอยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงโครงการก่อสร้าง ซึ่งก็เห็นด้วยหากการก่อสร้างไม่กระทบต่อการประกอบอาชีพเก็บหอย
ขณะที่ นางสาวนลินี ทองแถม นักวิชาการจากสถาบันวิจัยพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยที่อนุญาตให้ก่อสร้างท่าเทียบเรือบริเวณแหลมยามู ซึ่งเป็นแหล่งหญ้าทะเลที่ต่อเนื่องจากอ่าวป่าคลอก ที่อุมสมบูรณ์ที่สุดของภูเก็ต หากอนุญาตให้ก่อสร้างบริษัทจะต้องหามาตรการในการควบคุมไม่ให้การก่อสร้างกระทบต่อหญ้าทะเล
ขณะที่ อบต.ป่าคลอก ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ บอกว่า เห็นด้วยกับการก่อสร้างท่าเทียบเรือหากโครงการดังกล่าวไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตของประชาชน
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้เห็นชอบให้หลักการที่จะให้มีการก่อสร้างท่าเทียบเรือดังกล่าว แต่ได้มอบหมายให้องค์การบริหารส่วนตำบลป่าคลอก ขนส่งทางน้ำภูเก็ต ประมงจังหวัดภูเก็ตและโครงการ ชี้แจงทำความเข้าใจกับกลุ่มประมงพื้นบ้านและประชาชนในพื้นที่ ที่คาดว่า จะมีผลกระทบ และเสนอผลการรับฟังความคิดเห็นมายังจังหวัดภูเก็ตภายใน 15 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา เครือข่ายประมงพื้นบ้านจังหวัดภูเก็ตได้ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ประธานคณะกรรมการพิจารณาสิ่งล่วงล้ำลำน้ำจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้ชะลอการอนุญาตก่อสร้างมารีน่าของบริษัท เดอะยามู และอ่าวฉลอง
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์