แหล่งรวม ธุรกิจ บริษัท ห้างร้าน และ ข้อมูล การท่องเที่ยว ในแถบ อันดามัน
 
เข้าสู่ระบบ G! Builder
เลือกจังหวัด
ข่าวสาร ข่าวทั่วไป ในแถบ อันดามัน ( ภูเก็ต, กระบี่, ระนอง, ตรัง, พังงา, สตูล )

ภูเก็ต, พันธมิตรฯ เชื่อ หลังสงกรานต์ไม่เกิน 30 วันการเมืองเปลี่ยนแน่ ( ข่าวภูเก็ต )

 “สำราญ-การุณ-สมเกียรติ” 3 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ร่วมเสวนาการเมืองภาคประชาชน ระบุ เหนื่อยกับการทำงานแบบ “ฤๅษีเลี้ยงเต่า” ของ “รัฐบาลขิงแก่” 6 เดือนเข้ามาบริหารประเทศหลังการรัฐประหาร ไม่เห็นผลการปฏิรูปการเมือง ยังปล่อยช่องว่างให้อำนาจเก่าสำแดงเดช รมต.30 ชีวิต ไม่รู้ร้อน-หนาว ดำรงตำแหน่งเพื่อเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล ตั้งรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ “สับปะรังเค” ยังเป็นลูกผีลูกคน เชื่อล้มประชามติเอื้อให้ระบอบทักษิณกลับมาแน่ เผย พันธมิตรฯ เตรียมถกท่าทีต่อรัฐบาล 10 เม.ย.นี้ เชื่อ หลังสงกรานต์ไม่เกิน 30 วัน เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองแน่
      
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเวทีเสวนาการเมืองภาคประชาชน ที่คณะทำงานเสวนาการเมืองภาคประชาชน นำโดย นายสรนัน เสน่ห์ หัวหน้าคณะทำงานเสวนาการเมืองภาคประชาชน จัดขึ้นภายในงาน “เปิดศูนย์อบรมจริยธรรมมัสยิดบ้านกมลา” บริเวณสนามด้านข้างตลาดนัดกมลา ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต โดยมี นายสำราญ รอดเพ็ชร นายการุณ ใสงาม และนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ 3 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เดินทางมาร่วม ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น.คืนที่ผ่านมา ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง
      
แต่ยังคงมีประชาชนชาวภูเก็ต โดยเฉพาะพี่น้องชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ตำบลกมลา ตำบลเชิงทะเล และพื้นที่ใกล้เคียงเดินทางมาร่วมอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งพี่น้องชาวไทยมุสลิมจากพื้นที่จังหวัดพังงา และจังหวัดกระบี่ เดินทางมาร่วมรับฟังเป็นจำนวนมากด้วย นอกจากนั้น ยังมีนางอัญชลี วานิช เทพบุตร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นายสุทิน อุทัยธำรง รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต และนายไพบูลย์ อุปัตติฤงค์ อดีต ส.ว.ภูเก็ต ก็เดินทางมาร่วมรับฟังด้วย
      
โดยกิจกรรมบนเวทีเริ่มต้นด้วยกิจกรรมการแสดงของเด็กนักเรียนในพื้นที่ตำบลกมลา การอ่านคัมภีร์อัลกุรอาน ของนักเรียนโรงเรียนสอนศาสนาอิสลาม ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และการแสดงพื้นบ้านชุดลิเกฮูลู ของนักแสดงเด็กจากจังหวัดปัตตานี ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก
      
“สมเกียรติ” เหนื่อยรัฐบาลบริหารงาน 6 เดือน ย่ำกับที่
      
นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ 1 ในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวระหว่างการเสวนาการเมืองภาคประชาชน ว่า หลังการวมพลังระหว่างพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กับประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ ในการขับไล่ “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” และ “ระบอบทักษิณ” มี 2 ความรู้สึกในคราวเดียวกัน คือ ความรู้แรก โล่งใจที่ล้มล้างระบอบโกงบ้านกินเมืองได้สำเร็จ เพราะเป็นระบอบการบริหารงานที่ไม่เหมาะสมกับประเทศไทย แต่ก็ยอมรับว่า เหนื่อยล้ากับการบริหารงานของรัฐบาลชุดใหม่
      
เนื่องจากหลังคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช.ทำการปฏิวัติรัฐประหารล้มล้างระบอบทักษิณ 7 เดือนแล้ว รัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตองคมนตรี เข้ามาบริหารประเทศ 6 เดือน ไม่มีความคืบหน้าเรื่องการปฏิรูปการเมืองแต่อย่างใด ยังคงปล่อยให้มีช่องว่างที่จะให้อำนาจเก่ากลับมา ระบบการจัดการไม่เห็นผล คนระบอบทักษิณสำแดงเดช
      
สังเกตได้จากมีกลุ่มคลื่นใต้น้ำในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคอีสาน ที่มีการเคลื่อนไหวกดดันอย่างหนัก แต่รัฐบาลก็ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ ระยะเวลา 6 เดือน ของการบริหารงานของรัฐบาลใหม่ทำให้ประเทศเกิดความวุ่นวายอย่างหนัก ข้าราชการ 2 ล้านคนปล่อยเกียร์ว่าง รัฐบาลทำงานไม่เห็นผล เกษตรกรมีหนี้หลายแสนคน เกิดวิกฤตตามมา นั้นคือ การถูกยึดทรัพย์ ม็อบ 7 กลุ่ม ที่ดาหน้าเดินทางมายังทำเนียบรัฐบาล แต่รัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาใดๆ ได้
      
การลงทุนถดถอยลงทุกวัน ธนาคารโลก รายงานว่า ระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยย่ำแย่ที่สุด เมื่อเปรียบเทียบการประเทศอื่นๆ ในแถบภูมิภาคเอเชียด้วยกัน การปฏิวัติของ คมช.มองไม่เห็นอนาคต รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็ยังเป็นลูกผีลูกคน ถือได้ว่า เป็นรัฐธรรมนูญฉบับสับปะรังเค
      
นายสมเกียรติ กล่าวต่อไปว่า การเลือกตั้งครั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้น มีคนของระบอบทักษิณเตรียมตัวที่จะกลับเข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก และเชื่อว่า ระบอบทักษิณชนะอย่างแน่นอนกับความอ่อนแอของรัฐบาลชุดนี้ หากปฏิรูปการเมืองแล้วระบอบเดิมยังอยู่ ก็ไม่มีรู้ว่า พี่น้องประชาชนที่ต่อสู้กันมา จะอยู่อย่างไร เชื่อว่า ประชาชนคนไทยทั้งประเทศคงจะเหนื่อยล้าเหมือนกับตน ที่เห็นประเทศวุ่นวายอย่างที่สุด แต่รัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ โดยเฉพาะเศรษฐกิจที่ถดถอยลงทุกวัน ต่างชาติขาดความเชื่อมั่น
      
ชี้ รธน.ฉบับใหม่มีสิทธิล้มประชามติเอื้ออำนาจเก่า
      
ด้าน นายการุณ ใสงาม บอกว่า ขณะนี้ไม่รู้ว่าการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะมีการแก้ไขไม่ให้ระบอบทักษิณกลับมาหรือไม่ เพราะตนเองเป็นเพียง 1 ใน 100 เสียงเท่านั้น โดยส่วนตัวเชื่อว่า หากมีการลงประชามติรัฐธรรมนูญ และมีการร่างรัฐธรรมนูญแบบหละหลวม ระบอบทักษิณกลับมาแน่ เพราะมีการปล่อยช่องว่างหลายมาตราด้วยกัน การต่อต้านของกลุ่มต่างๆ มีน้ำเลี้ยงของระบอบทักษิณ เพื่อล้มล้าง คมช.และรัฐบาล แต่รัฐบาลกลับเพิกเฉย รัฐมนตรีทุกคนไม่รู้ร้อนรู้หนาว เข้ามาดำรงตำแหน่งเพียงเพื่อให้เป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูลเท่านั้น ข้าราชการหลายกระทรวงปล่อยเกียร์ว่าง จน คตส.ทำงานไม่สะดวก ซึ่งอีกไม่นาน คตส.ก็จะหมดวาระ ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก
      
สังเกตได้จากพื้นที่ภาคเหนือ และภาคอีสาน ระบอบทักษิณยังคงแสดงอำนาจ “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” ยังคงใช้เงินซื้อ เพื่อสร้างความเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาล และ คมช.ได้อย่างต่อเนื่อง และหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ โดยการแทรกซึมเข้าไปในหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะ อบต.อบจ.ที่ผ่านมา มีการจัดทัศนศึกษา โดยใช้งบประมาณของหน่วยงาน แต่เบื้องหลังเป็นการกระทำของคนของในระบอบทักษิณ
      
โดยเฉพาะช่วงการพืชสวนโลก ถึงแม้กระทั่งการจัดคณะไปดูหมีแพนด้า ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ทั้งยังมีเงินติดกระเป๋ากลับบ้านด้วย สาเหตุที่คลื่นใต้น้ำมีหลายกลุ่ม เพราะมีน้ำเลี้ยงมากเหมือนกัน
      
“เชื่อว่า ระบอบทักษิณสามารถล้มล้างประชามติรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เอื้อให้ระบอบทักษิณกลับมาได้อย่างแน่นอน เพราะเงินมีอำนาจต่อรองกับทุกอย่าง หากจะให้มั่นใจว่า ระบอบทักษิณ จะไม่กลับมาก็ต่อเมื่อมีการแก้รัฐธรรมนูญที่ไม่เอื้อประโยชน์ หรือมีช่องว่างใดๆ ทั้งสิ้น แต่ตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลไม่ทำอะไรเลย”
      
พันธมิตรฯเตรียมถกท่าทีต่อรัฐบาล 10 เม.ย.นี้
      
ขณะที่ นายสำราญ รอดเพ็ชร กล่าวว่า ทุกวันนี้ ที่มีคลื่นใต้น้ำเคลื่อนไหวทุกด้าน เพราะต้องการล้มล้างรัฐบาล และ คมช.ซึ่งวันที่ 10 เมษายน ที่จะถึงนี้ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะหารือร่วมกัน เพื่อกำหนดท่าทีต่อการบริหารงานประเทศของรัฐบาลชุดนี้ เพราะระยะเวลา 6 เดือน ทุกอย่างยังย้ำอยู่กับที่ ปล่อยให้มีคลื่นใต้น้ำทุกพื้นที่
      
เมื่อไม่นานมานี้ มีโอกาสหารือร่วมกับ นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนได้สรุปความเห็นให้นายธีรภัทร์ ฟัง 4 ข้อด้วยกัน คือ ข้อแรก ให้รัฐบาลดำเนินการปราบปรามการทุจริตทั้งระบบ ต้องมีความเข้มแข็ง สามารถดำเนินการด้วยตนเองได้ ไม่ใช่รอเพียงให้เป็นหน้าที่ของ คตส.อย่างเดียว ข้อ 2.ให้รัฐบาลดูแลม็อบคนจนด้วย ไม่ใช่ปล่อยไปตามยถากรรม ข้อ 3.ให้รัฐบาลดูแลระบบเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังย่ำแย่อย่างหนัก และต้องกำหนดมาตรการที่ชัดเจนว่า จะดำเนินการอย่างไร และข้อสุดท้าย รัฐบาลจะต้องมีความชัดเจนเรื่องการปฏิรูปการเมือง ว่า จะดำเนินการอย่างไร
      
นายธีรภัทร์ กลับบอกว่า เป็นห่วงนายกรัฐมนตรี กลัวว่า จะอดทนทำงานอยู่ต่อไปไม่ถึงกลางเดือนพฤษภาคมนี้ จากแรงกดดันจากหลายกลุ่ม และหลายฝ่าย วันนี้ลึกๆ ตนอยากให้นายกรัฐมนตรี มีก๊อก 2 กลับมาเข้มแข็ง จัดการเรื่องต่างๆ ให้จบโดยเร็วที่สุด ไม่ต้องเป็นฤๅษีเลี้ยงเต่าอีกต่อไป
      
นายสำราญ กล่าวถึงกรณีที่ ม็อบพีทีวี มีการจาบจ้วง พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ว่า ถือเป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมือง สงสารพลเอกเปรม ที่มีลูกมาก แต่ลูกๆ กลับช่วยอะไรไม่ได้ การที่พันธมิตรฯออกมายืนข้างพลเอกเปรม ก็ไม่รู้ว่า จะเกิดอะไรขึ้นอีก เพราะมีมุมมองหลายแง่ที่คนจะคิดได้
      
หลังเทศกาลสงกรานต์ไม่เกิน 30 วัน เชื่อว่า อาจมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอีกครั้งอย่างแน่นอน ซึ่งมี 3 ทางเลือกถามประชาชนว่า ต้องการให้เปลี่ยนแปลงทิศทางใด คือ ให้นายกรัฐมนตรีมีก๊อก 2 ล้างทุจริตทั้งหมด หรือ ให้นายกรัฐมนตรีลาออกกลับบ้านไปเลี้ยงหลาน หรือให้ คมช.ปฏิวัติซ้ำ เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาด
      
เชื่อ “ทักษิณ” กลับมาแน่หากได้เปรียบ

      
ซึ่งเมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีสิทธิที่จะเดินทางกลับมาประเทศไทยหรือไม่นั้น แน่นอนว่า มีโอกาสสูง เพราะตอนนี้ก็ไม่มีใครห้ามไม่ให้อดีตนายกรัฐมนตรีคนนี้ กลับมา เพียงแต่ว่า คนๆ นี้มีเหลี่ยมมาก จะไม่ทำอะไรที่เห็นว่าตนเองเสียเปรียบอยู่ เช่นเดียวกับการเดินทางกลับมาประเทศไทยด้วย เมื่อเห็นว่า ตนเองเสียเปรียบอยู่ก็จะไม่กลับมา
      
แต่เมื่อใดที่เห็นว่าตนเองได้เปรียบก็จะเดินทางกลับเข้ามาทันที โดยส่วนตัวแล้วตนอยากเห็น “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” เดินทางกลับมาประเทศไทยในฐานะจำเลยของศาล 3 เรื่องด้วยกัน คือ เรื่องแรก กรณีซื้อที่ดินบริเวณรัชดาภิเษก 773 ล้านบาท เรื่องที่ 2 คดีเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด CTX-9000 และเรื่องสุดท้าย คือ คดีธนาคารกรุงไทย โอนเงินกว่า 9,000 ล้าน โดยมิชอบ ซึ่งเชื่อว่า หลัง คตส.ยื่นข้อมูลชี้มูลความผิดให้อัยการ และอัยการสั่งฟ้อง 3 คดีนี้ เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีคนนี้กลับมาแน่

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์

Valid XHTML 1.0 Transitional Valid CSS!
ทะเบียนพาณิชย์อีเลคทรอนิคส์ เลขที่ 8373549000215