ธนารักษ์พื้นที่ภูเก็ตส่งมอบอาคารเก่า “ชาร์เตอร์ดแบงก์” อายุเกือบ 100 ปี ให้เทศบาลนครภูเก็ตปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์ภูเก็ต คาด ใช้งบประมาณดำเนินการไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาท
วันนี้ (5 เม.ย.) นายธำรงค์ ทองตัน สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ภูเก็ต ส่งมอบอาคารราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ภก.69 ถนนภูเก็ต ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นอาคารนครหลวงไทย จำกัด หรืออาคารธนาคารชาร์เตอร์ด ที่เป็นอาคารเก่าแก่อายุเกือบ 100 ปี ซึ่งอาคารดังกล่าวเป็นอาคารประวัติศาสตร์ เนื่องจากเป็นธนาคารแห่งแรกในภูมิประเทศที่ตั้งขึ้นในสมัยที่จังหวัดภูเก็ต มีความรุ่งเรืองจากการทำเหมืองแร่ หรือที่เรียกว่า อาคารชิโนโปรตุกีส โดยมี นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีเทศบาลนครภูเก็ต รับมอบ เพื่อปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์ภูเก็ต ตามแผนยุทธศาสตร์การบริหารที่ราชพัสดุเชิงสังคมของกรมธนารักษ์
นางสาวสมใจ กล่าวถึงการรับมอบอาคารเพื่อปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์ภูเก็ต ว่า ที่ผ่านมาเทศบาลนครภูเก็ตได้ลงนามความร่วมมือกับสำนักงานธนารักษ์พื้นที่จังหวัดภูเก็ต ในการขออนุญาตเข้าไปใช้ประโยชน์ที่ดินราชพัสดุดังกล่าว เพื่อให้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ทางด้านวิถีชีวิต วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของภูเก็ต รวมทั้งเพื่อให้เด็กและเยาวชนชาวภูเก็ตได้ตระหนักถึงคุณค่าทางด้านสถาปัตยกรรม และช่วยกันอนุรักษ์ไว้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมคู่เมืองภูเก็ตสืบไป
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการส่งมอบอาคารดังกล่าวแล้ว เทศบาลจะต้องเข้าไปทำการปรับปรุงอาคาร ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณในการดำเนินการไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาท ในการปรับปรุงอาคารชาร์ดเตอร์แบงค์ดังกล่าวให้เป็นพิพิธภัณฑ์ ซึ่งพิพิธภัณฑ์ที่จะดำเนินการจะทำเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต ซึ่งจะแตกต่างกับพิพิธภัณฑ์อื่นๆ ที่มีอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการออกแบบปรับปรุงอาคาร ซึ่งภายในอาคารดังกล่าวจะนำเสนอวิถีชีวิตของคนไทยในเขตเมืองตั้งแต่ในอดีต ที่มีเรือสำเภาวิ่งเข้ามาส่งสินค้าจนถึงบริเวณที่อาคารตั้งอยู่
นางสาวสมใจ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการปรับปรุงตัวอาคาร คาดว่า จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ส่วนตัวพิพิธภัณฑ์จะต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการอีกระยะหนึ่ง เมื่อปรับปรุงเสร็จพิพิธภัณฑ์ดังกล่าวจะเป็นตัวดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะมีการปรับปรุงอาคารชาร์เตอร์ดแบงก์แล้ว เทศบาลฯยังจะเข้าไปปรับปรุงอาคารศูนย์รวมข่าวพรหมเทพ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกันด้วย เพราะอาคารทั้ง 2 แห่งมีความสัมพันธ์กันมาตั้งแต่สมัยที่มีการก่อสร้าง ส่วนอาคารศูนย์รวมข่าวพรหมเทพ จะจัดทำเป็นศูนย์สาระสนเทศเพื่อให้ข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์