ชาวบ้านร้องจังหวัด ช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนของชุมชนข้างโรงเรียนขจรเกียรติศึกษา โดยขอไฟฟ้า -ประปา
วันนี้ (3 เม.ย) ที่ห้องประชุม POC ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายปิยะ ภะรตะศิลปิน ปลัดจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะทำงาน แก้ไขปัญหาชุมชนข้างโรงเรียนขจรเกียรติศึกษา จังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 1/2550 ซึ่งเดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัยเนื่องจากถูกบอกเลิกสัญญาเช่า โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) องค์การบริหารส่วนจังหวัด ภูเก็ต องค์การบริหารส่วนตำบลรัษฎา ที่ดินจังหวัด สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นต้น รวมทั้งตัวแทนของชาวชุมชนเข้าร่วม
สำหรับเรื่องดังกล่าวสืบเนื่องจากทางจังหวัดภูเก็ต ได้รับเรื่องร้องขอความช่วยเหลือจากประชาชนชุมชนข้างโรงเรียนขจรเกียรติศึกษา ต.ตลาดเหนือ เขตเทศบาลนคร ภูเก็ต แจ้งว่าชุมชนได้เช่าที่ดินพร้อมอาคารจากบริษัทงานทวี พี่น้อง จำกัด และได้อยู่อาศัยมาเป็นเวลาประมาณ 60 ปี จำนวน 90 หลังคาเรือน
ปัจจุบันเจ้าของที่ดินได้บอกเลิกสัญญาเช่า ตั้งแต่ พ.ศ.2544 ทำให้ราษฎรในชุมชนเดือดร้อนในที่ อยู่อาศัย ต่อมาชาวบ้านในชุมชนได้รวมตัวกันจัดตั้งเป็นกลุ่มออมทรัพย์ และได้ไปจดทะเบียน เป็นสหกรณ์เคหสถานทวีสินมั่นคงภูเก็ต จำกัด เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2548
ทั้งนี้ มี นางสุติยา ไชยทิพย์ เป็นประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ชุมชน ขจรเกียรติศึกษาและได้รับการสนับสนุนจากการเคหะแห่งชาติ และพอช. ให้ก็เงินจำนวน 24 ล้านบาท จัดซื้อที่ดินตามโฉนดที่ดินเลขที่ 66385 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต เนื้อที่ 16 ไร่ 49 ตารางวา เพื่อจัดทำโครงการมั่นคง แต่ขณะนี้ประสบปัญหาในการขอขยายเขตไฟฟ้า ระบบประปา และการก่อสร้างถนนเข้าสู่โครงการ รวมถึงการขออนุญาตก่อสร้างอาคารไม่ได้
หลังจากที่มีการพูดคุยกันจนเป็นที่เข้าใจแล้ว นายปิยะ ได้สรุปผลการประชุม ว่า ในเรื่องของที่ดินซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของสหกรณ์ฯ และยังไม่ได้แบ่งแยกโฉนด ให้ระบุกรรมสิทธิ์เฉพาะในส่วนของตัวบ้าน เพราะหากมีการแบ่งแยกโฉนดก็จะเข้าข่ายการจัดที่ดิน และจะต้องมีการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม
ส่วนของถนนทางเข้าโครงการ ก็ให้ไปดำเนินการแจ้งต่อสำนักงานที่ดิน เพื่อยกให้เป็นถนนสาธารณะเพื่อท้องถิ่นจะได้สามารถดำเนินการในส่วนของสาธารณูปโภคต่างๆ เข้าไปช่วยเหลือได้
เมื่อดำเนินการดังกล่าวเสร็จแล้ว ก็ให้นำแผนผังการก่อสร้างที่มีการจัดทำขึ้น ส่งไปให้ อบต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ตรวจสอบและประมาณการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสาธารณูปโภคที่จะต้องดำเนินการ ทั้งไฟฟ้า ประปาและถนน เพื่อจะได้มีการขอสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการ เพราะขณะนี้ได้รับงบส่วนหนึ่งจำนวนประมาณ 2.2 ล้านบาท จาก พอช.มาดำเนินการ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ หลังจากการดำเนินการในขั้นตอนต่างๆ เรียบร้อยแล้วก็ให้นำมาประชุมเพื่อจัดหาหน่วยงานที่ มาสนับสนุนงบประมาณมาดำเนินการต่อไป
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์