เครือขายสหพันธ์เทศบาลแห่งประเทศแคนาดา (FCM) เลือกเทศบาลนครภูเก็ตเป็นเจ้าภาพร่วม ประชุมนานาชาติองค์กรท้องถิ่นภาคพื้นเอเชีย หวังแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการบริหารงานระหว่างกัน พร้อมนำชมการฟื้นฟูพื้นที่หลังประสบเหตุสึนามิ
วันนี้ (29 มี.ค.) นายสมทธิ์ ปาลวัฒน์วิไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการประชุม นานาชาติองค์กรท้องถิ่นภาคพื้นเอเชีย ซึ่งเทศบาลนครภูเก็ตได้รับคัดเลือกเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุม ภายใต้เครือข่ายสหพันธ์เทศบาลแห่งประเทศแคนาดา (Federation of Canadian Municipalities : FCM) โดยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจากประเทศเวียดนาม ฟิลิปปินส์ แคนนาดา ศรีลังกา อินโดนีเซีย ไทย จำนวน 30 คนเข้าร่วมประชุม ณ โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต
นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีเทศบาลนครภูเก็ต กล่าวถึงการจัดประชุมนานาชาติองค์กรท้องถิ่นภาคพื้นเอเชีย ว่า จัดขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์ในการบริหารงาน ซึ่งกันและกัน เนื่องจากเครือข่ายสหพันธ์เทศบาลแห่งประเทศแคนานาเล็งเห็นว่า เทศบาลนครภูเก็ตเป็นเทศบาลขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว
ที่สำคัญของประเทศไทยและเทศบาลนครภูเก็ต มีศักยภาพในการดำเนินงานที่เข้มแข็ง และเป็นองค์กรปกครองท้องถิ่นที่มีความพร้อมที่จะดำเนินงานระดับนานาชาติได้ จึงได้จัดให้มีการประชุมขึ้นที่จังหวัดภูเก็ตในระหว่างวันที่ 29-31 มี.ค. 2550
อย่างไรก็ตาม หลังจากมีการประชุมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ในการบริหารงานระหว่างกันแล้ว ผู้ที่เข้าร่วมประชุมนานาชาติองค์กรท้องถิ่นภาคพื้นเอเชีย ภายใต้เครือข่าย FCM จะได้ติดตามความคืบหน้าการฟื้นฟูและเรียนรู้ การเตรียมความพร้อมในการรับมือกรณีเกิดภาวะฉุกเฉินขึ้นในพื้นที่ และระบบการเตือนภัยสึนามิ ภายหลังเกิดเหตุการณ์พิบัติภัยสึนามิขึ้นในจังหวัดภูเก็ต โดยเทศบาลนครภูเก็ตจะนำเสนอข้อมูลและจัดนิทรรศการเกี่ยวกับความเสียหาย การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย การฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายในเขตเทศบาลนครภูเก็ต รวมถึงระบบการเตรียมความพร้อม และการเตือนภัยที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตให้ที่ประชุมได้รับทราบ
หลังจากนั้น จะนำคณะเยี่ยมชมพื้นที่ ที่เคยได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว บริเวณชุมชนแสนสุข ปลายแหลมสะพานหินและพื้นที่ป่าตอง
ทั้งนี้ เทศบาลนครภูเก็ต มุ่งหวังว่าการที่ได้มีโอกาสเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมระดับนานาชาติครั้งนี้จะก่อให้เกิดความร่วมมือ และการประสานงานระหว่างองค์กรท้องถิ่นในภูมิภาคมากขึ้น และการที่มีโอกาสแลกเปลี่ยนประสบการทำงานระหว่างกันและกัน จะทำให้องค์กรท้องถิ่นภายในประเทศ นำประสบการณ์ที่ได้รับไปปรับใช้ เพื่อเพิ่มศักยภาพการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงการที่ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดประชุมครั้งนี้จะส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของจังหวัดภูเก็ตในระดับนานาชาติด้วย
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์