ภูเก็ต, ลงทุนใต้ตอนบนรุ่ง 2 เดือนทะลุ 1,600 ล้าน ทั้งปีคาดขยายตัวไม่ต่ำกว่า 12,000 ล้าน ( ข่าวภูเก็ต )

บีโอไอเผยการลงทุนพื้นที่ภาคใต้ตอนบนขยายตัวตั้งแต่ต้นปี แค่ 2 เดือนแรกของปีนี้นักลงทุนทั้งไทย และต่างชาติ ขนเงินมาลงทุนแล้วกว่า 1,600 ล้านบาท อุตสาหกรรมเกษตรและผลผลิตทางการเกษตรยังครองแชมป์ มั่นใจการลงทุนขยายตัวตลอดทั้งปีไม่ต่ำกว่า 12,000 ล้านบาท เหมือนปีที่ผ่านมา พร้อมเข้าไปส่งเสริมการลงทุนโรงแรมอันดามันที่ได้รับผลกระทบจากสึนามิ 32 แห่ง มูลค่าการลงทุนกว่า 6 พันล้านบาท
      
นางวนิดา ใหม่กิจเหมา ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคใต้เขต 2 สุราษฎร์ธานี เปิดเผยถึงการลงทุนในพื้นที่ภาคใต้ตอนบนในช่วงต้นปี 2550 ตั้งแต่เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ว่า โครงการที่ได้รับการอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนมีจำนวน 8 โครงการ และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ ปี 2549 แล้วจำนวนโครงการเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.29 เงินลงทุนทั้งสิ้น 1,663 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 223.54% โดยเมื่อปีที่แล้วมีเงินลงทุนทั้งสิ้น 514 ล้านบาท ก่อให้เกิดการจ้างงานคนไทย 584 คน
      
สำหรับอุตสาหกรรมที่มีการลงทุน ยังคงอยู่ในกลุ่มของอุตสาหกรรมการเกษตรและผลผลิตจากการเกษตร เช่น โครงการผลิตภัณฑ์จากไม้ยางพารา ของบริษัท เอเชียวู้ด อินดัสทรี จำกัด มีกำลังการผลิตภัณฑ์จากไม้ยางพารา เช่น โครงสร้างสระไม้ บันไดสระไม้ และพื้นไม้ปูระเบียง เป็นต้นประมาณ 73,000 ลูกบาศก์เมตร/ปี มีเงินลงทุน 48.1 ล้านบาท
      
โครงการขยายกิจการผลิตสุกรพันธุ์และสุกรขุน บริษัท ช.เกษตรรุ่งเรือง จำกัด มีกำลังการผลิตสุกรพันธุ์และสุกรขุน ประมาณ 63,000 ตัว/ปี มีเงินลงทุน 295.4 ล้านบาท โครงการผลิตน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ ของ นายไชยสิทธิ์ เอี่ยมยิ่งพานิช มีกำลังการผลิตน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ประมาณ 173,375 ตัน/ปี มีเงินลงทุน 389 ล้านบาท
      
โครงการผลิตน้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ และไบโอดีเซล บริษัท นิว ไบโอดีเซล จำกัด มีกำลังการผลิตน้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ ประมาณ 146,000 ตัน/ปี ไบโอดีเซล ประมาณ 73,000,000 ลิตร/ปี มีเงินลงทุน 550 ล้านบาท เป็นหุ้นไทย และโครงการขยายกิจการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ของ ปาล์มโมริช จำกัด มีกำลังการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ประมาณ 30,000 ตัน/ปี มีเงินลงทุน 25 ล้านบาท
      
อุตสาหกรรมบริการและสาธารณูปโภค ได้สนับสนุนส่งเสริมการลงทุนในโครงการกิจการโรงแรม ตามนโยบายส่งเสริมการลงทุนเพื่อฟื้นฟูกิจการที่เสียหายจากธรณีพิบัติภัย “คลื่นสึนามิ” ของ บริษัท หาดทอง (พังงา) จำกัด

นางวนิดา ยังกล่าวถึงแนวโน้มการลงทุนภาคใต้ตอนบนในอีก 10 เดือนข้างหน้าของปี 2550 ว่า คาดว่า การลงทุนในพื้นที่ภาคใต้ตอนบนจะขยายตัวต่อเนื่องไม่ต่ำกว่าปี 2549 เนื่องจากภาคใต้ตอนบนมีพื้นที่เหมาะสมกับการลงทุน ส่วนใหญ่เป็นกิจการเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว กิจการผลิตไฟฟ้าจากของเหลือใช้ทางการเกษตร กิจการขนถ่ายสินค้า โรงพยาบาล กิจการต่อเรือซ่อมเรือ และกิจการแปรรูปสินค้าการเกษตร เช่น ผลิตอาหารแช่แข็งน้ำยางข้น ชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ ผลิตเอทานอล ผลิตน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ และไบโอดีเซล เป็นต้น จึงคาดว่าการลงทุนภาคใต้ตอนบนปี 2550 จะมีโครงการลงทุนที่ได้รับอนุมัติไม่ต่ำกว่า 50 โครงการ เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 12,000 ล้านบาท
      
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในภาคใต้ตอนบน ยังคงมีปัจจัยที่เป็นตัวแปรสำคัญด้านต่างๆ เช่น ขาดแคลนแรงงาน และสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ราคาน้ำมัน เงินบาทแข็งค่า และสถานการณ์ชายแดนภาคใต้ รวมถึงสถานการณ์ทางการเมือง ล้วนแล้วเป็นปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุนในภาคใต้ตอนบน
      
ส่งเสริมโรงแรมเหยื่อสึนามิกว่า 6 พันล้าน

นางวนิดา ยังกล่าวถึงการเข้าไปส่งเสริมการลงการลงทุน ให้แก่ผู้ประกอบการด้านโรงแรมในพื้นที่อันดามันที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิ เมื่อปลายปี 2547 ว่า หลังจากที่เกิดเหตุการณ์สึนามิโรงแรมต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เขาหลัก และกระบี่ ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก บีโอไอได้เข้าไปให้การช่วยเหลือผู้ประกอบการดังกล่าว ด้วยการเข้าไปส่งเสริมการลงทุนด้วยการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี และมีการผ่อนผันหลักเกณฑ์ต่างๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการบางรายที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์การยกเว้นภาษีได้มีสิทธิที่บีโอไอจะส่งเสริมการลงทุนได้ เช่น โรงแรมที่มีห้องพักต่ำกว่า 100 ห้อง อัตราส่วนหนี้สิ้นต่อผู้ถือหุ้น เป็นต้น

ทั้งนี้ ได้เปิดให้ผู้ประกอบการยื่นขอสนับสนุนการลงทุนมาตั้งแต่ปี 2548 และได้สิ้นสุดเมื่อสิ้นปี 2549 ปรากฏว่า มีผู้ประกอบการโรงแรมที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์สึนามิ ทั้งที่เสียหายทั้งหมดและบางส่วน ยื่นขอส่งเสริมทั้งสิ้น 35 ราย ซึ่งขณะนี้บีโอไอได้พิจารณาอนุมัติส่งเสริมการลงทุนไปแล้วทั้งสิ้น 32 โครงการ จำนวน 3,400 ห้อง มูลค่าการลงทุน 6,162 ล้านบาท แบ่งเป็นโรงแรมในพื้นเขาหลัก จ.พังงา จำนวน 1,515 ห้อง ภูเก็ตจำนวน 1,237 ห้อง และกระบี่ จำนวน 654 ห้อง ส่วนที่เหลืออีก 3 โครงการ คาดว่า บีโอไอจะอนุมัติการลงทุนในเร็วๆ นี้ เพราะยังขาดข้อมูลบางส่วน
      
นางวนิดา กล่าวอีกว่า โรงแรม รีสอร์ต ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอบางแห่งยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง บางแห่งได้ก่อสร้าง และเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวแล้วตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งแต่ละโรงแรมมีนักท่องเที่ยวเข้าพักไม่ต่ำกว่า 70-80% ที่เขาหลัก ส่วนที่ภูเก็ตอัตราเข้าพักดีมากเต็มเกือบทุกโรงแรม แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่า ในปีหน้าโรงแรมต่างๆ ที่เขาหลักจะก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการนักท่องเที่ยว

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์