อบต.เชิงทะเล-ตำรวจ นำกำลังบุกรวบคนงานรับจ้าง ลักลอบตัดต้นสนขนาดใหญ่ในที่ดินชายทะเล พบมีนายทุนบุกรุกหลายราย อบต.ยืนยันเป็นที่ดินอยู่ระหว่างฟ้องขับไล่ผู้บุกรุก
วันนี้ (26 มี.ค.) องค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล (อบต.) โดย นายกรีฑายุทธ พิบูลย์ หัวหน้าส่วนโยธาองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายสามารถ สาเก นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล พร้อม พ.ต.ท.วีระวัฒน์ จันทรวิจิตร รองผู้กำกับหัวหน้าสถานีตำรวจตำบลเชิงทะเล นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 4 นาย เข้าจับกุมกลุ่มบุคคล ขณะกำลังช่วยกันใช้เลื่อยยนต์เลื่อยต้นสนบริเวณหาดลายัน หมู่ที่ 4 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต หลังจากได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีการลักลอบเข้าไปตัดไม้
เมื่อไปถึงพบคนงานหลายคน กำลังใช้เครื่องยนต์ตัดต้นไม้สนในพื้นที่กว้างนับสิบต้น และนำใส่รถบรรทุกสิบล้อ หมายเลขทะเบียน 70-1659 สงขลา ซึ่งจอดอยู่ นอกจากนั้น มีรถเครนขนาดใหญ่คอยชักลากไม้ด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจและนายกรีฑายุทธได้สั่งให้หยุดดำเนินการ ส่วนคนงานต่างพากันวิ่งหนีไปคนละทิศละทาง และสามารถจับกุมตัวได้ 2 คน คือ นายสมนึก ทองมณโฑ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86/1 หมู่ 1 ต.ไกรลาศ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ และนายสมนึก พันธ์ทิพย์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/4 หมู่ 4 ต.ทุ่งคาโงก อ.เมือง จ.พังงา พร้อมด้วยเลื่อยยนต์ 1 เครื่อง รถบรรทุก 1 คัน และรถเครน 1 คัน
หลังจับกุมนำตัวผู้ต้องหาพร้อมทั้งของกลางรถยนต์บรรทุก 10 ล้อ 1 คัน รถเครน 1 คัน นำส่ง พ.ต.ท.เจษฎา แสงสุรีย์ สารวัตรเวร สภ.ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันให้เสียทรัพย์ ซึ่งมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ ซึ่งคนงานทั้งสองอ้างว่าได้รับการว่าจ้างให้มาตัดต้นไม้สน แต่ไม่ทราบว่าเป็นใคร
นายกรีฑายุทธ กล่าวว่า ที่ดินบริเวณดังกล่าวมีจำนวน 178 ไร่ อยู่ติดทะเลรายัน หากมีการซื้อขายที่ดินแห่งนี้จะมีมูลค่านับพันล้านบาท ซึ่งทางองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเลได้แจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจตำบลเชิงทะเล เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2547 ว่า ที่ดินแห่งนี้เป็นที่สาธารณประโยชน์
ต่อมาได้มีนายทุนรายหนึ่งเข้ามาอ้างเป็นผู้ครอบครองที่ดินแห่งนี้มาก่อน แต่ อบต.เชิงทะเล ได้โต้แย้ง และนำภาพถ่ายทางอากาศของกรมแผนที่ทหาร เมื่อปี 2505 พบว่า บริเวณที่ดินแห่งนี้ยังอยู่ในทะเล ต่อมากลายเป็นแผ่นดินที่งอก เนื่องจากคลื่นได้ซัดเอาทรายเข้ามา จึงต้องกลายเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน
นายกรีฑายุทธ ยังกล่าวอีกว่า ที่ดินบริเวณดังกล่าวมีเอกชนและนายทุน รวมทั้งชาวบ้านเข้าไปบุกรุกครอบครองหลายราย โดยทั้งหมดถูก อบต.แจ้งความในข้อหาก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น และบุกรุกที่สาธารณะไว้แล้ว ซึ่งขณะนี้ อบต.เชิงทะเล กำลังดำเนินการฟ้องร้องขับไล่ออกจากที่ดินบริเวณนี้อยู่ และอยู่ในระหว่างการไต่สวนของศาลดังกล่าวการที่ผู้ที่เข้ามาลักลอบตัดไม้สนครั้งนี้ถือว่าละเมิด เนื่องจากที่ดินยังอยู่ในข้อพิพาทกันอยู่
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์