ชาวบ้านชุมชนแออัด 25 ชุมชนในภูเก็ตกว่า 300 คนบุกศาลากลางจังหวัด ขอไฟฟ้า-น้ำ-ถนน หลังได้รับความเดือดร้อน พร้อมให้ยุติดำเนินคดีกับชาวชุมชน ยืนยันขอพบรองผู้ว่าราชการจังหวัดเพียงคนเดียว
วันนี้ (22 มี.ค.) ชาวบ้านชุมชนแออัดในพื้นที่ จ.ภูเก็ตจาก 25 ชุมชน ซึ่งส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องที่ดินและที่อยู่อาศัย อาทิ ชุมชนราไวย์ ชุมชนปลากะตักพัฒนา ชุมชนคลองปากบาง ชุมชนบ้านหินลูกเดียว ชุมชนท่าสัก ชุมชนโหนทรายทอง ชุมชนซอยกิ่งแก้ว ชุมชนโคกโตนด ชุมชนซอยพระบารมี 8 และชุมชนอื่นๆ อีกหลายชุมชนประมาณ 300 คน เดินทางมารวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ตเพื่อยื่นขอเรียกร้องต่อผู้ว่าราชการจังหวัดให้ช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากไม่มีระบบสาธารณูปโภค เช่น น้ำประปา ไฟฟ้า ถนน เนื่องจากชาวบ้านเหล่านี้อาศัยอยู่ในที่ดินของธนารักษ์ กรมเจ้าท่า ป่าชายเลนเสื่อมสภาพ และที่ดินสาธารณะ
รวมทั้งบางชุมชนอาศัยอยู่ในที่ดินที่มีข้อพิพาทกับเอกชนทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในชุมชนทั้ง 25 ชุมชนกว่า 6,000 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักเนื่องจากไม่มีทะเบียนบ้าน หรือมีก็เป็นทะเบียนบ้านชั่วคราวไม่สามารถขอใช้น้ำประปา หรือไฟฟ้าจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ทำให้ต้องซื้อน้ำประปาและใช้ไฟฟ้าที่ต่อพ่วงจากที่อื่นทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงกว่าปกติกว่า 3 เท่า
นอกจากนั้น ชุมชนส่วนใหญ่ไม่มีระบบระบายน้ำ ถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ มีน้ำขังไม่มีที่ทิ้งขยะ ชาวบ้านจึงได้รวมตัวกันมายื่นหนังสือเรียกร้องจากจังหวัดในครั้งนี้
สำหรับข้อเรียกร้องที่ชาวบ้านเตรียมยื่นให้กับทางจังหวัดเพื่อให้ช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ประกอบด้วย ขอให้ชุมชนได้รับการพัฒนา หรืออนุญาตให้ชุมชนสามารถพัฒนาระบบสาธารณูปโภคในพื้นที่โดยเฉพาะน้ำประปา ไฟฟ้า ถนน คูระบายน้ำเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนโดยเร่งด่วน รวมทั้งขอให้หน่วยงานรัฐยุติการดำเนินคดีกับชาวชุมชน โดยในการแก้ไขปัญหาของแต่ละชุมชนให้มีการเปิดเจรจาโดยมีตัวแทนของเครือข่ายเข้าร่วมด้วย นอกจากนั้นขอให้ทางจังหวัดยุติการไล่รื้อชาวบ้านในชุมชนทันที
อย่างไรก็ตาม ในการดูแลและพัฒนาชุมชนมีประสิทธิภาพและได้รับการพัฒนาที่รวดเร็วยิ่งขึ้นขอให้ชุมชนบางแห่งไปอยู่ในความดูแลของ อบจ. หรือได้รับการพัฒนาเช่นเดียวกับชุมชนในพื้นที่ อบต.ไม้ขาว
นอกจากนั้น ชุมชนที่อยู่ระหว่างดำเนินคดีให้สามารถพัฒนาชุมชนได้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น และให้จังหวัดดำเนินการกับชุมชนตามมติของคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาความยากจนด้านที่ดินที่มี พล.อ.สุรินทร์ พิกุลทอง กำลังดำเนินการ และให้ทางจังหวัดใช้มาตรการการคุ้มครองและช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษสำหรับชาวเล ซึ่งเป็นชุมชนดั้งเดิมของเมือง
สำหรับการชุมนุมในช่วงชาวนั้น นายทวิชา ไชยทอง จ่าจังหวัดได้ลงไปเจรจากับตัวแทนชุมชนและชาวบ้านเพื่อให้ส่งตัวแทนไปร่วมหารือกับปลัดจังหวัดภูเก็ต แต่ชาวบ้านยืนยันไม่ร่วมประชุมด้วยจนกว่าจะได้พบกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตหรือรองผู้ว่าที่รักษาราชการแทน แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดติดราชการที่กรุงเทพฯ ส่วนรองผู้ว่าราชการจังหวัดนั้นติดรับเสด็จฯ ไม่สามารถพบกับชาวบ้านได้ ซึ่งชาวบ้านยืนยันที่จะรอจนกว่าจะได้พบ
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์