ภูเก็ต, เปิดใช้แล้วกล้อง CCTV ภูเก็ต 48 จุด - เตรียมเพิ่มอีก 100 กว่าจุดทั่วเกาะ ( ข่าวภูเก็ต )

โครงการติดตั้งกล้องวงจรปิด และป้องกันอันตรายภูเก็ตแล้วเสร็จ เปิดดำเนินการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หวังสร้างความอุ่นใจให้ประชาชนในพื้นที่ และสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวทั้งไทย และต่างชาติ ที่มาภูเก็ต พร้อมเดินหน้าเฟส 2 ต่อให้ครอบคลุมทุกพื้นที่อีก 100 กว่าจุด
      
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (19 มี.ค.) บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT TELECOM ได้แถลงถึงความสำเร็จการติดตั้งศูนย์ควบคุมสั่งการ CCTV เฝ้าระวังและป้องกันรักษาความปลอดภัยจังหวัดภูเก็ต ที่เปิดใช้อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค.2550 เป็นต้นไป โดยมี ดร.สิทธิชัย โภไคยอุดม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นประธาน ร่วมด้วย นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.เดชา บุตรน้ำเพชร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และนายพิศาล จอโภชาอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ CAT TELECOM ณ โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน พร้อมกับเยี่ยมชมศูนย์ควบคุม กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต
      
โครงการจัดตั้งศูนย์ควบคุมสั่งการ CCTV เฝ้าระวัง และป้องกันรักษาความปลอดภัยจังหวัดภูเก็ตนั้น เกิดขึ้นเมื่อปี 2548 โดยใช้งบผู้ว่าฯซีอีโอ จำนวน 16 ล้านบาท โดยมอบหมายให้ทาง CAT TELECOM เป็นผู้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ และติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดผ่านอินเทอร์เน็ต ในพื้นที่นำร่อง และพื้นที่เสี่ยงต่อการก่ออาชญากรรมจำนวน 48 จุด
      
แบ่งเป็นหาดป่าตอง 16 จุด หาดกะตะ กะรน 16 จุด และตัวเมืองภูเก็ต 16 จุด มีศูนย์ควบคุมหลักอยู่ที่ สภ.อ.เมืองภูเก็ต และศูนย์ควบคุมย่อยที่ สภ.อ.กะทู้ และ สภ.ต.ฉลอง
       ทั้งนี้ เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่ภูเก็ต และสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวที่ภูเก็ต ซึ่งขณะนี้การติดตั้งทั้งในส่วนของศูนย์ควบคุมและกล้อง CCTV ดำเนินการแล้วเสร็จ
      
การติดตั้งศูนย์ฯ เป็นการนำเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า และเป็นที่ยอมรับในระบบติดต่อสื่อสารผ่านโครงข่ายสัญญาณใยแก้วนำแสง โดยการนำเทคโนโลยีไอพี และการจัดทำระบบรักษาความปลอดภัยให้กับเครือข่ายสารสนเทศ ที่มีอยู่ในบริการ CAT IT Security รวมถึงการเชื่อมโยงเข้ากับเทคโนโลยีมัลติมีเดียสื่อสารไร้สายความเร็วสูง ภายใต้ระบบ CDMA 2000 IXEV-DO ที่สามารถตอบสนองการใช้งานได้ทุกรูปแบบ เช่น พีดีเอ โน๊ตบุ๊ก หรือเทอร์มินอลไร้สาย
      
ทั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เตรียมรับเหตุการณ์ต่างๆ หรือภัยคุกคามที่ไม่คาดคิด พร้อมสามารถติดตามผู้ก่อการร้ายได้อย่างทันท่วงที ไม่ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะอยู่จุดใดที่มีการเชื่อมอินเทอร์เน็ตก็สามารถตรวจสอบข้อมูลผ่านเบราเซอร์ได้

ดร.สิทธิชัย โภไคยอุดม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวว่า หลังจากที่ภูเก็ตสามารถใช้กล้อง CCTV ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะสร้างความมั่นใจและความอุ่นใจให้กับประชาชนชาวภูเก็ต และผู้ที่อาศัยอยู่ในภูเก็ต รวมทั้งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ที่เดินทางมาพักผ่อนที่ภูเก็ต ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของภูเก็ตได้อีกแล้วหนึ่ง เพราะจุดที่มีการติดตั้ง CCTV ถือเป็นพื้นที่สำคัญทางการท่องเที่ยวของภูเก็ต ไม่ว่าจะเป็นหาดป่าตอง หาดกะตะ กะรน และเมืองภูเก็ต
      
นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยมาก ทั้งในส่วนของประชาชนชาวภูเก็ตและนักท่องเที่ยว ที่เดินทางเข้ามาใช้ชีวิตในภูเก็ต
      
จังหวัดจึงได้ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต จัดตั้งศูนย์ควบคุมสั่งการ และติดตั้งกล้อง CCTV นำร่องในพื้นที่เสี่ยง ที่หาดป่าตอง กะตะ กะรน และเมืองภูเก็ต จำนวน 48 จุด ด้วยงบประมาณผู้ว่าฯซีอีโอ 16 ล้านบาท และจะมีการขยายในเฟส 2 ต่อไปอีกกว่า 100 จุด โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ดำเนินการร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้มีการก่อสร้างจุดตรวจที่บริเวณท่าฉัตรไชย ซึ่งจะมีการติดตั้งกล้อง CCTV ด้วย เพราะท่าฉัตรไชยถือเป็นด่านแรกที่คนเดินทางเข้ามาภูเก็ตโดยทางรถยนต์
      
ด้าน พล.ต.ต.เดชา บุตรน้ำเพชร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จำนวนกล้อง CCTV ที่ติดตั้งไปแล้ว 48 จุดถือว่าไม่เพียงพอ ขณะนี้ทางผู้ว่าฯภูเก็ต ได้มอบหมายให้ท้องถิ่นเป็นผู้ดำเนินการต่อ ด้วยการตั้งงบประมาณในการติดตั้งกล้อง CCTV ให้ครอบคลุมทั้งจังหวัดเพื่อสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัย ซึ่งท้องถิ่นบางท้องถิ่นให้การตอบรับดีมาก เช่น เทศบาลนครภูเก็ตได้ตั้งงบประมาณไว้แล้ว 15 ล้านบาท ในการดำเนินการ รวมทั้งเทศบาลเมืองป่าตองได้ตั้งงบประมาณ 4 ล้านบาท เพื่อติดตั้งเพิ่มเติม อบต.ราไวย์อีก 20 ล้านบาท รวมทั้งเทศบาลตำบลกะรนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ

“ภายหลังจากที่ติดตั้งกล้องวงจรปิด ประชาชนในพื้นที่ภูเก็ต คาดหวังว่า การก่อปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่จะลดลง ซึ่งจะลดลงหรือไม่นั้นคงจะต้องประเมินกันอีกครั้งหนึ่ง หลังเปิดใช้ไปแล้วระยะหนึ่ง”

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์